เมื่อพูดถึงของมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญต่อยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกคาดหวังในเรื่องของสมรรถนะ จากส่วนของระบบขับเคลื่อนที่สำคัญในรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบด้วยแบตเตอรี่ตัวควบคุมและมอเตอร์
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-4-1024x576.jpg)
การที่ตัวรถยนต์จะมีความแรงหรือไม่แรง หากเป็นกลุ่มของรถน้ำมันจะดูที่เครื่องยนต์ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่กำลังของมอเตอร์ ซึ่งเหมือนกับการเล่นรถทามิย่าหรือรถวิทยุบังคับหากต้องการให้รถแรงขึ้น จะต้องทำ
การโมมอเตอร์ จึงเป็นเหตุผลที่จะมาพูดถึงเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีในเรื่องของมอเตอร์ขึ้นมา และเดิมทีมีการใช้งานมอเตอร์มาอย่างยาวนานร่วม 200 ปี เพื่อมาใช้แทนกำลังคน
ในระบบอุตสาหกรรมการผลิต แต่ในปัจจุบันมอเตอร์จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ที่คาดหวังว่าสมรรถนะของมอเตอร์จะสูงมากขึ้น ถ้าสามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 ต่ำกว่า 2 วินาที จะดีเป็นอย่างมาก
ประวัติของมอเตอร์ไฟฟ้า
เมื่อย้อนกลับไปในปี 1820 มีการคิดค้นมอเตอร์ไฟฟ้าเกิดขึ้นครั้งแรกบนโลก โดยนาย Michael Faraday
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-17-1024x576.jpg)
โดยนำไฟฟ้ามาแปลงเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำ จนเกิดเป็นพลังงานกลหรือเกิดการเคลื่อนที่
ซึ่งจะเป็นรากฐานหลักการของมอเตอร์ไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-18-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-19-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-20-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-21-1024x576.jpg)
ต่อมาในยุคปี 1800 ที่เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ได้เกิดไฟฟ้าครั้งแรกบนโลก มีการนำไฟฟ้ามาใช้อรรถประโยชน์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟที่เปลี่ยนไฟฟ้าเป็นแสงสว่าง แต่สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า คือ
การใช้ไฟฟ้ามาเป็นพลังงานกลแทนคน ซึ่งในยุคแรกจะถูกนำไปใช้ในไลน์การผลิตอุตสาหกรรมการเกษตรทั้งหลาย
เพื่อเป็นการทุ่นแรงคน โดยยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในรถยนต์
จนกระทั่งปี 1835 ทางนาย Thomas Davenport เป็นนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-28-1024x576.jpg)
เป็นผู้ทำการดัดแปลงรถม้าขนาดเล็กที่ใส่มอเตอร์และแบตเตอรี่ลงไป แล้วเมื่อลองเปิดสวิตช์ ผลปรากฏว่า
รถม้าขนาดเล็กสามารถวิ่งได้ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าจากมอเตอร์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
บนโลก
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-30-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-31-1024x576.jpg)
ในยุคนั้นเทคโนโลยีมอเตอร์ที่เริ่มเอามาใช้จะเป็นเทคโนโลยี Brush Motor DC
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-32-1024x576.jpg)
คือ มอเตอร์กระแสตรงที่มีแปรงถ่านที่ตัว Rotor จะเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำ และตัว Stater หรือตัวบอดี้
จะเป็นแม่เหล็กถาวร ส่วนตรง Brush จะมีแปรงทำหน้าที่สัมผัส Rotor คือ การจ่ายไฟขั้วบวกขั้วลบ ทำให้เกิด
การหมุนเวียน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-34-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-36-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-37-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-38-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-40-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-42-1024x576.jpg)
ถ้าต้องการเห็นภาพหน้าตาที่ชัดเจน อาจลองแกะรถวิทยุบังคับออกมาที่ส่วนใหญ่จะใช้ Brush Motor DC
แต่ทั้งนี้ Brush Motor มีจุดอ่อนเมื่อตัวแปรงถ่านเกิดการสึกหรอ จะทำให้มอเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้
จึงมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความทนทานมากขึ้น จนเกิดเป็น Brushless Motor DC ที่นำตัวแปรงถ่านออกไป
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-44-1024x576.jpg)
คนที่คิดค้นบอกถึงหลักกการทำงาน คือ การนำตัวแม่เหล็กถาวรที่อยู่ตรง Stater ไปอยู่ที่ Rotor แทน
และเอาแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะไปอยู่ที่ตรง Stater เพื่อทำให้เกิดการหมุน ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ คือ จะนำไฟฟ้าไปป้อนที่ตัว Stater แทนที่ตัวขั้ว Rotor ที่มีการเคลื่อนที่ ซึ่งจะสาเหตุที่ทำให้เกิดการสึกหรอ
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-47-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-48-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-50-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-51-1024x576.jpg)
Brushless Motor DC จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1960 และมีการพัฒนามาจนถึงปี 1970
จนในปี 1980 ที่มีการใช้ Brushless Motor DC มากขึ้น โดยในช่วงแรกๆ จะถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรม
ประกอบกับข้อดีของ Brushless Motor DC คือ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า Brush Motor DC
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-52-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-53-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-54-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-55-1024x576.jpg)
และในปี 1990 ตัว Brushless Motor DC มีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นและ
มีราคาที่ถูกลง อาทิ การนำมาใช้ในรถวิทยุบังคับ เครื่องบินบังคับ เป็นต้น
จนถึงปี 2000 มีการนำ Brushless Motor DC มาใช้ในรถยนต์ครั้งแรก โดยนำมาใช้กับรถยนต์ที่เป็นพลังงาน Hybrid เนื่องจาก Brushless Motor DC ให้กำลังดีแต่มีรอบไม่สูง จึงเหมาะสมที่จะนำมาใช้กับเทคโนโลยี Hybrid
ในการช่วยการออกตัว
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-60-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-61-1024x576.jpg)
จึงเกิดรถยนต์ที่นำมอเตอร์ไฟฟ้ามาผสมเป็นครั้งแรกของโลกกับเทคโนโลยี Hybrid ดังนั้นในช่วงเวลาปี 2000 ที่คนได้ลองทำต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าออกมา โดยส่วนใหญ่ก็จะใช้ Brushless Motor DC ที่สามารถวิ่งไฟฟ้าได้
แต่มีข้อเสียในเรื่องของความเร็วยังไม่สูงมาก มีสมรรถนะที่ไม่ค่อยดี และกินพลังงานค่อนข้างมาก
เมื่อมาถึงยุครถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2010 เริ่มมีการทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาและมอเตอร์ไฟฟ้า
โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีเป็น AC Motor หรือมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ สาเหตุที่ต้องใช้เป็น AC มอเตอร์
เพราะว่าเมื่อเป็น AC Motor ไฟ 3 เฟส ที่จะมีแรงในการรับไม้ต่อกัน 3 เฟส ช่วยกันวงละ 120 องศา
แต่ถ้าเป็น DC จะต้องรอให้ครบรอบ แล้วถึงค่อยผลักออก แต่สำหรับ AC Motor เมื่อครบ 1/3 รอบ จะสามารถ
ผลักออกได้เลย ทำให้เกิดสมรรถนะเสี้ยววินาทีที่ดีมากกว่า จึงนิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2010
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-64-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-65-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-67-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-68-1024x576.jpg)
ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าที่คุ้นเคย คือ มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Permanent – Magnet Synchronous Motor (PMSM)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-70-1024x576.jpg)
เป็นการผสมผสานเหมือนกับ Brushless Motor DC คือ ตัวแม่เหล็กถาวรจะอยู่ที่ Rotorตัวแกนหมุน
ส่วนแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะอยู่ที่ตัว Stator แต่เปลี่ยนจาก DC มาเป็น AC 3 เฟส ทำให้หมุนเวียนถี่มากขึ้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-71-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-72-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-73-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-74-1024x576.jpg)
จนกลายเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น ORA Good Cat,
MG ZS EV หรือ BYD โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็น Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-75-300x169.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-76-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-77-1024x576.jpg)
และมีอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่นำมาใช้กับมอเตอร์รถไฟฟ้าในปัจจุบัน จะเป็นเทคโนโลยีมอเตอร์อินดักชั่น
(Induction Motor) หรือมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ
จากการที่คนหันใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จะเจอประสบปัญหาสิ่งหนึ่ง คือ เรื่องของแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth)
ที่หายากไม่ว่าจะเป็นแร่ลิเธียมโคบอลต์ของแบตเตอรี่ ส่วนในมอเตอร์ที่ใช้แร่ที่หายากที่สุด คือ แม่เหล็กธรรมชาติ หรือแม่เหล็กถาวร
ดังนั้นมอเตอร์อินดักชั่น (Induction Motor) จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้การเหนี่ยวนำของขดลวดทั้ง 2 อัน คือ
ทั้งของ Rotor และ Stater ที่เป็นแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำทั้งคู่ แต่ความยากของมอเตอร์อินดักชั่น
(Induction Motor) จะต้องมีตัวควบคุมที่ซับซ้อนกว่า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-86-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-88-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-89-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-90-1024x576.jpg)
จึงไม่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย แต่จะใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาค่อนข้างสูง อย่างเช่น Tesla Model S และ Model X จะเป็น Induction Motor ส่วน Tesla ถ้าเป็น Tesla Model 3 หรือ Model Y จะใช้เป็น Switched Reluctance Motor (SRM) และ Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM)
ซึ่ง Switched Reluctance Motor (SRM) จะเป็นมอเตอร์ที่เปลี่ยน Rotor จากแม่เหล็กถาวร หรือขดลวกไฟฟ้าเหนี่ยวนำ มาเป็นเหล็กธรรมดาที่ถูกออกแบบรูปร่างเป็นสนามแม่เหล็ก ส่งผลให้มีราคาถูกลง ส่วน Stater จะเป็น
ขดลวดไฟฟ้าเหนี่ยวนำ ทำให้ประหยัดต้นทุนลงมา จึงเหมาะสมสำหรับกับการผลิตจำนวนมากและมีราคาที่ไม่สูง อย่าง Tesla ที่เป็น Model 3 หรือ Model Y เป็นต้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-92-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-95-1024x576.jpg)
เมื่อถึงตรงนี้หลายคนมีคำถามสาเหตุที่ต้องพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าให้มีความแรงมากขึ้น ทั้งทีมอเตอร์ไฟฟ้าที่เราใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าอยู่อัตราเร่งสูงถึง 0 – 100 ต่ำกว่า 4 วินาที แต่จากยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเริ่มต้น
จึงมีเวลาที่สามารถพัฒนาในด้านต่าง ๆ ให้ดีมากขึ้น อย่างถ้าเราต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรุ่นใหม่คนคาดหวังว่า
จะต้องมีสมรรถนะที่ดีมากกว่ารถรุ่นเก่า ดังนั้นเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะต้องมีการพัฒนาตามขึ้นไป
ในอนาคตการพัฒนาเทคโนโลยีของมอเตอร์ไฟฟ้ามี 5 ปัจจัยหลัก คือ
1. เรื่องของน้ำหนัก
ถ้ามอเตอร์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมาก จะทำให้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งได้ในระยะทางที่
ค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าสามารถลดน้ำหนักให้เบาลง ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งในระยะทางที่ไกลมากขึ้น
2. ขนาดของมอเตอร์ไฟฟ้า
ถ้ามอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กลงจะมีพื้นที่ที่วางแบตเตอรี่ หรือพื้นที่ห้องโดยสารที่ใหญ่มากขึ้น
3. เรื่องของการใช้แร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth)
จากราคาของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ไม่สามารถทำให้ถูกลงได้ เป็นเพราะว่า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) ที่จะใช้แม่เหล็กถาวร ซึ่งเป็นแร่หายากที่มีจำกัดและมีวันหมดไป ดังนั้นในอนาคตข้างหน้าจะไม่ใช้
แร่แม่เหล็กถาวรในการทำมอเตอร์ เพื่อให้ราคาถูกลง
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-84-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-85-1024x576.jpg)
4. เรื่องของระบบการระบายความร้อน
ซึ่งแน่นอนมอเตอร์ไฟฟ้าในอนาคตจะมีรอบที่สูงมากขึ้น เมื่อพอรอบสูงขึ้นจะต้องมีการใช้ความร้อนและ
เกิดความร้อนมากขึ้น จึงต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี ซึ่งปัจจุบันระบบระบายความร้อนสามารถระบายความร้อนที่ตัวแกน Rotor ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นมาในอนาคตข้างหน้า
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-114-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-115-1024x576.jpg)
5. เรื่องของกำลังต่อน้ำหนัก
มอเตอร์ในอนาคตจะมีกำลังแรงมากขึ้นและมีน้ำหนักที่เบาลง ซึ่งในปัจจุบันมอเตอร์ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า
ส่วนใหญ่มีกำลังต่อน้ำหนักจะอยู่ที่ 6 กิโลวัตต์ต่อกิโลกรัม แต่ในอนาคตข้างหน้ามอเตอร์จะเป็น 10 กิโลวัตต์ต่อกิโลกรัม และสามารถทำได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมอเตอร์ที่เห็นออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ Axial Flux Motor
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-122-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-123-1024x576.jpg)
ถือว่าเป็นการพลิกโฉมมอเตอร์ที่มีอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีต โดยเปลี่ยนรูปแบบใหม่และแพ็คเกจใหม่
จากที่เป็น Radial คือ ตัวแกนแม่เหล็กเหนี่ยวนำจะอยู่ในแนวที่เป็นทรงกระบอก ส่วน Axial Flux Motor คือ
ตัวแกน Rotor จะมีลักษณะเหมือนแพนเค้ก
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-124-1024x576.jpg)
ข้อดีของ Axial Flux Motor คือ มีกำลังที่แรงมากขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง ผู้ที่สามารถทำได้ คือ YASA
ที่ทำให้กับเบนซ์ เดมเลอร์ ถ้าเป็นรถเบนซ์รุ่นพิเศษอย่าง Mercedes-benz AMG จะนำมอเตอร์ชนิดนี้มาใช้
โดยสามารถนำมาติดที่ล้อได้เพราะมีขนาดที่เล็ก แทบจะเรียกว่าเป็น In Wheel Motor
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-130-1024x576.jpg)
Axial Flux Motor จึงเป็นการเปลี่ยนรูปแบบ Format ของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ร่วมมา 200 ปี จากทรงกระบอก
ที่เรียกว่า Radial Motor มาเป็น Axial Flux Motor ที่เปลี่ยนจากแนวทรงกระบอก มาเป็นแนวขวางหรือจานแพนเค้ก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการเหนี่ยวนำ ทำให้มีแรงที่มากขึ้น แรงบิดมากขึ้น และประหยัดพื้นที่มากขึ้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-131-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-132-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-133-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-134-1024x576.jpg)
นอกเหนือจากmuj Axial Flux Motor มีการเปลี่ยนในเรื่องของแพ็คเกจ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กลง
ที่ไม่ได้เป็นทรงกระบอกแล้ว และมีก้านยื่นออก อย่าง In Wheel Motor คือ การนำมอเตอร์ไปอยู่ในล้อ
ซึ่งเป็น Radial ที่เหนียวนำเป็นทรงกระบอก แต่เพียงว่าอยู่ในรูปแพ็คเกจของล้อ
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-135-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-136-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-137-1024x576.jpg)
ซึ่งอย่างที่เห็นมีการนำมาใช้ในเรื่องของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ฮับมอเตอร์ ซึ่งมีข้อดี คือ
การประหยัดพื้นที่ ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามารถวางแบตเตอรี่บนตัวรถ ถ้าเป็นมอเตอร์ Mid-Drive
จะไม่มีพื้นที่วางแบตเตอรี่ เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด
ส่วนสุดท้าย คือ การทำมอเตอร์ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แร่หายากอย่างพวกแม่เหล็กถาวร ซึ่งวันนี้ทาง Tesla บอกว่า
จะทำ Switched Reluctance Motor (SRM) ที่จะไม่ใช้แม่เหล็กถาวรและตัวขดล่วงเหนี่ยวนำ โดยจะออกแบบ Switched Reluctance Motor (SRM) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีราคาที่ถูกลงมากกว่าเดิมและให้กำลังที่ดีมากขึ้น
ในตอนนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาและเชื่อว่าจะสามารถทำออกมาได้อย่างแน่นอน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-142-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-143-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด-144-1024x576.jpg)
สรุป สำหรับการพลิกโฉมมอเตอร์ไฟฟ้าในรอบ 200 ปี เข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่อัตราเร่ง
0 – 100 ต่ำกว่า 2 วินาทีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าจากจุดกำเนิดเมื่อ 200 ปีที่แล้ว ที่ค้นพบมอเตอร์ไฟฟ้าครั้งแรกบนโลก
จะเป็น Brush Motor DC ที่เน้นมอเตอร์ที่มีกำลังดีแต่ให้ความเร็วที่ไม่สูงมาก นำมาใช้เป็นรถม้าคันแรกและในอุตสาหกรรมเป็นหลักเพื่อทุ่นแรงแทนคน หลังจากนั้นจึงยกระดับขึ้นมาเป็น Brushless Motor DC ที่ไม่ต้องใช้
แปรงถ่าน ซึ่งมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมและรถยนต์ครั้งแรกอย่างรถยนต์ Hybrid จากจุดหยุดนิ่งมาเคลื่อนที่
ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
จนมาถึงยุคของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวที่จะใช้เป็น AC Motor ไม่ว่าจะเป็น Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) หรือ Induction Motor และในยุคของยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตข้างหน้า
คาดหวังว่ามอเตอร์จะมีเทคโนโลยีที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักที่เบาลง มีขนาดที่เล็กลง
ให้กำลังมากขึ้น มีรอบจัดมากขึ้น ระบายความร้อนดีขึ้น และสุดท้ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช้แม่เหล็กถาวร
ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในยุคของเรา
และนี้คือเรื่องราวของมอเตอร์ไฟฟ้าที่คุณสามารถดูได้จากคลิปด้านล่าง และถ้าหากคุณชอบคลิปนี้ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ