จากประวัติศาสตร์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่สมัยก่อนรถยนต์ไฟฟ้าได้เกิดขึ้นมาก่อนรถยนต์น้ำมันและ
ได้รับความนิยมมากกว่า จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงหายไปและไม่มีการนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน
รวมทั้งสาเหตุที่รถยนต์น้ำมันมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกร่วม 100 ปี และจุดเปลี่ยนที่ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า
จะกลับมาอีกครั้ง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-6-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-56-1024x576.jpg)
ยานพาหนะที่มนุษย์ใช้จะเป็นแรงงานคนและสัตว์เพื่อเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปที่จุดหนึ่ง ซึ่งมีการใช้ทั้งคนและ
สิ่งของเพื่อให้เกิดการเคลื่อนที่ โดยเทคโนโลยีที่ใช้ในยานพาหนะ เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม คือ การที่มนุษย์
คิดค้นเทคโนโลยีในการทุ่นแรงคน เพื่อทดแทนการใช้ยานพาหนะแบบเดิม
ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1769 เรียกว่า เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 เกิดเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญ คือ เครื่องจักรไอน้ำ (Steam Engine) เป็นการต้มน้ำและนำไอน้ำมาเกิดเป็นแรงดัน เพื่อนำแรงดันมาขับเคลื่อน
เครื่องจักร
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-17-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-18-1024x576.jpg)
เครื่องจักไอน้ำ มีข้อดีในเรื่องของมีแรงบิดและกำลังที่ดี ส่วนข้อเสีย คือ ให้ความเร็วที่ต่ำ ซึ่งในช่วงแรก
มีการนำมาใช้กับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมในการผลิต สำหรับรถไฟในยุคแรก ๆ มีการใช้เครื่องจักรไอน้ำที่จะต้องคอยเติมน้ำและเชื้อเพลิงเข้าไป หลังจากนั้นนำมาย่อขนาดลงเพื่อใช้ในยานพาหนะ หรือรถยนต์เครื่องจักรไอน้ำ
แต่เมื่อใช้รถยนต์เครื่องจักรไอน้ำในการเดินทาง จำเป็นที่จะต้องคอยดู การเติมน้ำ ฟืน เชื้อเพลิง และถ่านหิน เพื่อให้เครื่องจักรทำงาน รวมทั้งการติดเครื่องต้องใช้เวลานานพอสมควร แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดในการใช้
เครื่องจักรไอน้ำ
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-20-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-166-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-25-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-27-1024x576.jpg)
จนกระทั้งในปี 1870 เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นยุคแรกที่เริ่มใช้ไฟฟ้า
โดยนายนิโคลา เทสลา ซึ่งเป็นคนที่คิดค้นเรื่องของไฟฟ้า จากการที่ไฟฟ้าอยู่ในธรรมชาติ จึงมีการนำไฟฟ้ามาใช้งาน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-28-1024x576.jpg)
ในยุคนั้นเกิดสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อาทิ ด้านอุตสาหกรรมที่นำพลังานไฟฟ้ามาใช้ การเกิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
และมีการใช้มอเตอร์ ประกอบกับในยุคนั้นมีคนที่คิดค้นเรื่องยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักซึ่งเป็นเรื่องใหม่
สำหรับ ณ เวลานั้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-30-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-31-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-35-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-36-1024x576.jpg)
นอกจากนี้ในช่วงยุคนั้นได้เกิดบุคคลอัจฉริยะหลายท่าน โดยที่บุคคลที่รู้จักกันดี คือ เซอร์ทอมัส แอลวา เอดิสัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-38-1024x576.jpg)
เป็นผู้คิดค้นหลอดไฟ และทาง เซอร์ทอมัส แอลวา เอดิสัน ยังให้ความสนใจคิดค้นเรื่องอื่นที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-39-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-40-1024x576.jpg)
เมื่อเกิดพลังงานไฟฟ้าขึ้นมา มีคนประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าออกมาในปี 1830 ซึ่งยังเป็นเพียงแค่แนวความคิด
แต่หลังจากนั้นในปี 1897 มีการเกิดรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกขึ้นมา
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-43-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-44-1024x576.jpg)
การเปลี่ยนแปลงจากรถยนต์เครื่องจักรไอน้ำ โดยมี 2 ตัวเลือก คือ รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์น้ำมัน
ซึ่งในยุคนั้นรถยนต์น้ำมันได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นที่นิยม เพราะว่าเวลาสตาร์ทรถจะต้องนำก้านไปหมุนที่หน้ารถ เพื่อให้ลูกสูบหมุนแล้วทำการจุดระเบิด ซึ่งจะเกิดควัน กลิ่น และเสียงที่ดังออกมา
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-47-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-48-0-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-48-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-49-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-50-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-51-1024x576.jpg)
ดังนั้นทางเลือกอย่างรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถตอบโจทย์ได้มากที่สุด ทำให้ยุคนั้นคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
อย่างแพร่หลาย เนื่องจากว่าไม่เกิดเสียงดัง ไม่มีกลิ่นเหม็นเท่ากับรถยนต์น้ำมัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-52-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-53-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-54-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-55-1024x576.jpg)
จึงเกิดบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ออกมาจำนวนมาก และสามารถเรียกได้ว่าในปลาย
ปียุค 1800 – ช่วงปี 1900 ถือว่าเป็นยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้า ที่รถยนต์น้ำมันยังไม่ได้รับความนิยม จากเรื่องของความยุ่งยากในการหมุนสตาร์ท รวมทั้งเกิดเสียงดังและไอเสียที่มีกลิ่นเหม็น จึงไม่สามารถสู้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้
บริษัทที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
เจ้าแรกที่ทำออกมา คือ Columbia Motor Carriage Company
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-58-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-59-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-60-1024x576.jpg)
ก่อตั้งในปี 1897 เป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันที่มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมา โดยเน้นกลุ่มที่ใช้งานในเมือง เพราะว่าในยุคที่มีไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งความเจริญจะอยู่แค่ในเมืองที่มีไฟฟ้าและการเดินทางจะเน้นสัญจรในเมืองเป็นหลัก
ดังนั้นคนจึงนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในเมือง ซึ่งสามารถเดินทางได้ในระยะทาง 60 -80 กิโลเมตร ต่อ 1 การชาร์จ และสถานีชาร์จสามารถหาได้ง่าย ทาง Columbia Motor Carriage Company สามารถทำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความหลากหลายรูปแบบและขนาด รวมทั้งสามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้หญิง
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-66-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-67-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-69-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-68-1024x576.jpg)
ค่ายที่สอง คือ Baker Electric Vehicle Company
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-70-1024x576.jpg)
ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งในช่วงประมาณยุคต้นปี 1900 โดยสิ่งที่ทาง Baker Electric Vehicle Company ทำจะแตกต่างจาก Columbia Motor Carriage Company คือ การพัฒนาเทคโนโลยี
รถยนต์ไฟฟ้าให้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดมอเตอร์ และชุดคอนโทรลที่จะนำมารวมในชุดเดียวกัน
รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Regenerative Braking หรือ สามารถปั่นไฟฟ้ากลับได้ โดยเวลาที่ยกคันเร่งจะปั่น
ไฟฟ้ากลับแล้วชะลอความเร็วลง หลังจากนั้นจะนำกลับมาชาร์จที่ตัวแบตเตอรี่ ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งได้
ในระยะทางที่ไกลมากขึ้น และเทคโนโลยีนี้มีการนำมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-72-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-74-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-75-300x169.jpg)
นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ ค่ายที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมา ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าสามารถขายได้ที่จำนวน
30,000 ต่อปี หากเปรียบเทียบในเรื่องของราคา ส่วนราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 3,000 USD ถือว่าเป็นราคาที่แพง ซึ่งรถยนต์น้ำมันมีราคาจะอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,000 USD แต่คนยังคงเลือกหันมาใช้
รถยนต์ไฟฟ้าจากความสะดวกสบายในการใช้งาน ในขณะเดียวกันรถยนต์น้ำมันยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จากยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเฟื่องฟู มีคนที่อยากให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถไปต่อได้ โดยจะต้องมี
การพัฒนาในเรื่องของแบตเตอรี่ ที่ในช่วงนั้นแบตเตอรี่ยังคงเป็นเทคโนโลยีตะกั่วกรด และคนที่เห็นว่าจะต้อง
มีการพัฒนาแบตเตอรี่ คือ เซอร์ทอมัส แอลวา เอดิสัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-83-1024x576.jpg)
การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่เริ่มตั้งแต่ปี 1901 โดยมีการทำแบตเตอรี่ตัวใหม่ที่ใช้นิกเกิลไอออนแทน
ตะกั่วกรด หรือบางคน เรียกว่า แบตเตอรี่เอดิสัน ซึ่งมีคนที่เข้าร่วมในการวิจัย คือ นายเฮนรี ฟอร์ด
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-85-1024x576.jpg)
นายเฮนรี ฟอร์ด ถือว่าเป็นนักธุรกิจที่เล็งเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี จึงร่วมมือกับทาง เซอร์ทอมัส แอลวา เอดิสัน สำหรับการพัฒนาเรื่องแบตเตอรี่
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-86-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-87-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-88-1024x576.jpg)
หลังจากที่ นายเฮนรี ฟอร์ด ใช้เวลาเข้าร่วมการพัฒนาแบตเตอรี่ของ เซอร์ทอมัส แอลวา เอดิสัน มาระยะหนึ่ง ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเฟื่องฟู ได้สังเกตเห็นถึงข้อจำกัดบางอย่างที่ต่อให้การพัฒนาแบตเตอรี่ออกมาได้ดี
เพียงใด จะไม่สามารถลดต้นทุนในการผลิตแบตเตอรี่ลงได้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีราคาที่แพง
รวมทั้งระยะทางในการวิ่งที่จำกัด อาจทำให้รถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถไปต่อได้ในอนาคตข้างหน้า
แต่เมื่อหันกลับมามองในส่วนของรถยนต์น้ำมัน ที่มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการสตาร์ทที่มีมอเตอร์ที่ใช้สำหรับการสตาร์ทที่ไม่จำเป็นต้องใช้ก้านไปหมุนที่หน้ารถ การพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีเสียงที่เงียบมากขึ้น มียางแท่นเครื่องทำให้ตัวรถสั่นสะเทือนน้อยลง และสามารถพัฒนาระบบไอเสียที่มีควันกลิ่นเหม็นดีมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมองภาพรวมจะเห็นได้ว่ารถยนต์น้ำมันน่าจะไปได้ดีกว่า ทำให้นายเฮนรี ฟอร์ด จึงค่อย ๆ
ออกมาจากรถยนต์ไฟฟ้า
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-91-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-92-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-93-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-94-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-95-300x169.jpg)
อย่างที่รู้กันว่าทาง นายเฮนรี ฟอร์ด เป็นเจ้าพ่อปฏิวัติวงการรถยนต์
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-97-1024x576.jpg)
โดยผลิตรถยนต์น้ำมันราคาถูกที่ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย จากการผลิตจำนวนมาก คือ FORD MODEL T ในปี 1908 – ปี 1920
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-98-1024x576.jpg)
ทาง Ford ได้เปิดตัวรถยนต์น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน คือ MODEL T เพื่อให้คนหันมาใช้รถยนต์น้ำมันมากขึ้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-100-1024x576.jpg)
หากเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีข้อจำกัด และราคารถยนต์น้ำมันขายจะอยู่ที่ 825 USD ถูกมากกว่า
ราคาของรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 3,000 USD
ในช่วงแรกคนยังมีความกังวลในการใช้รถยนต์น้ำมัน แต่มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนหันมาใช้รถยนต์น้ำมันมากขึ้น จากการขยายความเจริญไปยังเมืองต่าง ๆ มากขึ้น และมีการขุดพบน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกลงอย่างมาก
ทำให้คนมองเห็นว่าปั๊มน้ำมันสามารถหาได้ง่าย และเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนเสาไฟฟ้าเพื่อตั้งเครื่องชาร์จจะหาได้ยากกว่า ดังนั้นสถานีน้ำมันจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
นอกจากนี้ รถยนต์น้ำมันสามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าถึง 2 -3 เท่า ณ เวลานั้น
ส่งผลให้คนยิ่งหันมาใช้รถยนต์น้ำมันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทาง Ford มีการผลิตรถยนต์น้ำมันจำนวนมากและพัฒนากระบวนการผลิตให้ดีมากยิ่งขึ้น ยิ่งส่งผลให้ราคารถยนต์น้ำมันถูกลงกว่าเดิมจากราคาที่ 800 ลงมาอยู่ที่
285 USD ต่อคัน ส่งผลให้คนมาใช้รถยนต์น้ำมัน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-105-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-106-1024x576.jpg)
หลังจากช่วงปี 1920 ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าจึงค่อย ๆ ลดลง จนเหลือแค่กลุ่มใช้เฉพาะผู้หญิง
และสุดท้ายก็ค่อย ๆ หายไปในที่สุด
จุดเปลี่ยนที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลับมา
รถยนต์ไฟฟ้ากลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เนื่องจากในช่วง 100 ปี ที่ใช้รถยนต์น้ำมันได้ทิ้งสิ่งหนึ่งเอาไว้ คือ
เรื่องของมลภาวะ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมลพิษทั้งทางอากาศและทางน้ำ
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-110-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-111-1024x576.jpg)
ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศมีการรณรงค์จะต้องใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นคำตอบ
รวมทั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากของเดิมที่ใช้นิกเกิลไอออน มีการเปลี่ยน
มาเป็นลิเธียมไอออนเรียบร้อยแล้ว โดยที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ลิเธียมแบบ NMC และลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-112-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-113-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-116-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-117-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-118-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-119-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-120-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-121-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-122-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-123-1024x576.jpg)
บุคคลที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลับมาได้ คือ
นายอีลอน มัสก์ เจ้าของแบรนด์ TESLA
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-124-1024x576.jpg)
ในความจริงมีหลายค่ายที่พยายามทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมา อาทิ GM และ NISSON แต่ไม่สามารถทำออกมา
เชิงพาณิชย์ในจำนวนมากได้ จากการที่ไม่สามารถกดเรื่องของต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทาง นายอีลอน มัสก์ คิดอยู่เสมอว่าถ้าต้องการให้คนสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้
จำเป็นจะต้องผลิตในปริมาณมากเท่านั้น เพื่อจะกดต้นทุนของแบตเตอรี่ เพราะเทคโนโลยีของแบตเตอรี่
ไม่มีความน่ากังวลเมื่อเทียบกับสมัยก่อน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-128-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-127-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-129-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-130-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-131-1024x576.jpg)
จึงได้มีการเปิดตัวรถ Tesla ตั้งแต่ปี 2008 คือ Tesla Roadster โดยจะเป็น Tesla Model S และ
Tesla Model X
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-132-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-133-1024x576.jpg)
ซึ่งทั้ง 2 Model ยังไม่สามารถทำให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากได้ แต่ถือว่าเป็น Model ที่ลอง
ตลาดเฉพาะกลุ่ม สำหรับผู้ที่มีความสามารถในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้านำมาใช้ก่อน
จนกระทั่งปี 2017 เป็นจุดเปลี่ยนอย่างแท้จริงที่ได้มีการเปิดตัว Tesla Model 3
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-125-1024x576.jpg)
ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลาง มีราคาที่สามารถเข้าถึงได้และใกล้เคียงกับราคาของรถยนต์น้ำมัน
โดยจะแพงมากกว่าประมาณ 25 -30% แต่เมื่อมีการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ราคาเทียบเท่ากับรถยนต์น้ำมัน ส่งผลให้คนหันมาใช้ Tesla Model 3 จำนวนมาก
ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงได้รับความนิยมมากขึ้น และเมื่อมีความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
จะต้องทำการผลิตในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่
100 USD ต่อ 1 kWh หรือประมาณ 3,000 บาทเท่านั้น และในอนาคตราคาต้นทุนจะถูกลงมากกว่าเดิม
จะเห็นได้ว่าจากช่วงครบรอบ 100 ปี ตั้งแต่ปี 1920 จนกระทั่งปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้ากลับมาประมาณปี 2017 และนับใช้จริงเมื่อปี 2020 จาก 100 ปี ที่รถยนต์ไฟฟ้าหายไปและได้กลับมาอีกครั้ง มาจากจุดเปลี่ยนในเรื่องแบตเตอรี่ เรื่องมลภาวะ การบังคับใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-146-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-147-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-148-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-149-1024x576.jpg)
จากที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว และรถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการไปสู่อนาคตข้างหน้า
ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพราะว่าทาง Tesla ไม่ได้กล่าวถึงพลังงานสะอาดเพียง
อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องของซอฟต์แวร์ มีระบบ AI รถขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะแตกต่าง
จากรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อร้อยปีก่อน
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-150-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-152-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-151-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-153-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-154-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-155-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-156-1024x576.jpg)
![](https://evguarantee.net/wp-content/uploads/2023/11/จุดเปลี่ยนรถไฟฟ้าที่จะมาโค่นรถน้ำมันอีกครั้ง-157-1024x576.jpg)
สรุป 100 ปีที่หายไปของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะกลับมาโค่นรถยนต์น้ำมันอีกครั้ง จากจุดเปลี่ยนที่ในหลาย ๆ ประเทศหันมาสนใจเรื่องของพลังงานสะอาดจากสภาวะโลกร้อน เป็นผลมาจากการใช้รถยนต์น้ำมันใน 100 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นในหลาย ๆ ประเทศควรหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาด อย่างที่สองปัจจัยเรื่องของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพมากกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ที่สามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลมากขึ้นและ
ใช้เวลาชาร์จเร็วขึ้น รวมทั้งจะมีการพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สามรถยนต์ไฟฟ้าเป็นฐานของ
รถขับเคลื่อนแบบไร้คนขับแบบ 100% ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งในขณะนี้ เราอยู่ในช่วงยุคการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ในรอบ 100 ปี
เเละนี้คือเรี่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณสามารถดูได้จากคลิปด้านล่าง และถ้าหากคุณชอบคลิปนี้ขอฝาก กดLIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ