VinFast รุกตลาดEV เมกาจะรอดมั้ย!? ลูกค้าโวยสเปคไม่ตรงปก ราคาแพง จะสู้เจ้าตลาดได้หรือไม่?

         หลายคนก็ถามเข้ามาเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง VinFast EV ซึ่งเป็นรถยนต์สัญชาติเวียดนาม

         มีการประกาศจะเข้ามารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศจีน

         แต่อย่าลืมว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกามีแบรนด์ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้น ๆ ของโลกอยู่ คือ Tesla Ford General Motors (GM) และแบรนด์ค่ายใหม่อย่าง Lucid Air และ Rivian

         หลายคนมีคำถามว่าทำไม VinFast ถึงคิดจะเข้าไปรุกตลาดสหรัฐอเมริกา และที่ตลาดเวียดนามเป็นอย่างไร   เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2022 ทาง VinFast บอกว่าจะเริ่มมีการส่งมอบรถช่วงต้นปี 2023 ก็มีหลาย ๆ สื่อเริ่มไปรีวิวต่างก็บอกว่ารถยนต์ไฟฟ้า VinFast ไม่เป็นไปตามที่บอกไว้ ชาวอเมริกันต่างก็หลีกหนี เพราะนอกจากรถจะมีราคาที่แพงแต่สมรรถนะยังไม่ตรงปก แล้วยังมีข่าวว่าจะตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกาจึงเกิดข้อกังขาว่าเป็นไปด้วยดีหรือไม่

         ทีนี้เรามาพูดถึง VinFast หลังจากที่เริ่มประกาศว่าจะทำตลาดในสหรัฐอเมริกา โดยการเปิดตัวรถรุ่นแรก คือ VinFast VF8 ที่เป็นรถ SUV Crossover

         มีทั้งหมด 2 Series ให้เลือก คือ Eco Series 260 kW สามารถวิ่งได้ไกล 420 KM/1การชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP
         และอีกรุ่นหนึ่ง คือ รุ่น Plus Series 300 kW สามารถวิ่งได้ไกล 400 KM/1การชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP

         โดยรถยนต์ล็อตแรกของ VF8 สำหรับใครที่จองจะส่งมอบในช่วงเดือนปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยนำเข้าจากเวียดนามจำนวน 999 คัน แต่พอถึงช่วงเวลาที่กำหนดต้องส่งมอบ
         ทาง VinFast ก็ไม่สามารถทำการส่งมอบได้ รวมทั้งในช่วงระยะเวลาที่รอส่งมอบ ทางสื่อต่าง ๆ ได้ไปทดสอบ   ขับแล้ว ต่างให้ความเห็นเกี่ยวกับสมรรถนะว่าไม่เป็นไปตามที่กล่าวไว้ ทั้งในเรื่องของระยะทางและระยะเวลาใน       การชาร์จ

         ดังนั้นทาง VinFast จึงขอเลื่อนกำหนดการส่งมอบเป็นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ทั้งยังยืนยันที่จะทำรถ VF8 ตาม Series ให้ได้ แต่ถ้ามีคนที่ต้องการอยากได้รถก่อน ก็สามารถเลือกรับเป็น City Edition คือ เป็นเวอร์ชั่นที่สามารถวิ่งในเมือง โดยจะลดระยะทางจาก 400 KM เหลือ 290 KM/ 1 การชาร์จ ซึ่งหลายคนต่างก็ไม่เห็นด้วย เพราะราคาของ VF8 ขายอยู่ที่ 59,000 USD ตีเป็นเงินอยู่ที่ประมาณ 1.8 – 1.9 ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับ Tesla Model Y

         VinFast บอกว่าถ้าซื้อจะลดราคาให้อีก 3,000 เหรียญ เท่านั้นไม่พอ ถ้ารับทันทีรับอีก 3,000 เหรียญ รวมกันเป็น 6,000 เหรียญ ซึ่งต้องบอกว่า ถ้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจาก VinFast จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางรัฐบาล 7,500 เหรียญ เพราะว่ายังไม่ได้มีโรงงานผลิตไม่เหมือนกับ Tesla ทำให้หลายคนเลือกซื้อกรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla เพราะมีราคาที่ถูกกว่าและได้รับเงินสนับสนุนอีก 7,500 เหรียญ

         ส่งผลให้หลายคนเกิดความลังเลในการตัดสินใจซื้อรถจาก VinFast แถมล่าสุดตัวระบบของรถ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ความปลอดภัย ระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ยังไม่ถูกรับรองจากหน่วยงานของทางสหรัฐอเมริกา ว่าระยะได้ตามมาตรฐาน EPA (Environmental Protection Agency) ระบบความปลอดภัยผ่านการทดสอบหรือไม่ จึงไม่สามารถออกประกันภัยหรือขอลีสซิ่งได้

          มาทำความรู้จักบริษัท VinFast ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ในเครือของบริษัท Vingroup ทั้งหมด

         บริษัท Vingroup ทำกิจการหลายอย่างในประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซอฟต์แวร์ โรงแรม การศึกษา เปรียบได้ดั่งบริษัทซีพีที่ประเทศไทย ที่ดำเนินการโดยมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเวียดนาม ชื่อ นาย Pham Nhat Vuong

         เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท VinFast ในปี 2017 มีการทำรถยนต์น้ำมันมาก่อนและขายให้กับคนในประเทศเวียดนาม     เป็นหลัก หลังจากนั้นได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมปี 2021 คือ รถรุ่น cf e34 หรือรุ่น VF8 ในปัจจุบัน ที่เป็น SUV Crossover

         มีราคาเปิดอยู่ที่ 690 ล้านดอง หรือตีราคาเป็นเงินไทยประมาณ 940,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง      เพราะเป็นการทำโมเดลที่ซื้อรถไปแต่ต้องเช่าแบตเตอรี่ โดยจ่ายเป็นรายเดือนรวมกับค่าผ่อนรถรายเดือนอยู่ที่ 1.45 ล้านดอง หรือตีเป็นเงินไทยประมาณเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้

         ทีนี้หลายคนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ VinFast ว่ามี Know-How ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเอง ซึ่งทาง VinFast          มีแพลตฟอร์มของตัวเองชื่อว่า VinFast VEA (VinFast electric architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนา    ร่วมกับบริษัทสัญชาติเยอรมัน ซึ่งแพลตฟอร์มนี้สามารถปรับยืดขยายได้ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV รถเก๋งหรือรถโดยสารก็ใช้แผ่นฟอร์มเดียวกัน เพื่อทำให้ราคาต้นทุนในการผลิตลดต่ำลง

         นอกเหนือจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบช่วยเรื่องของความปลอดภัยอย่างระบบ ADAS ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์      ขึ้นมาเองแล้วซึ่งก็บอกว่าอันนี้ช่วยได้ในเรื่องของการควบคุมความเร็วและรักษา ถือได้ว่าก็เป็นหัวใจที่  VinFast    แอบซุ่มพัฒนาขึ้นมา

        มีข่าวว่า CEO ของ VinFast คนแรก คือ นาย Jim DeLuca ซึ่งเป็นผู้บริหารของ GM และยังมีผู้บริหารที่มาจาก AGA – chemical เข้ามาร่วมบริหารในบริษัท VinFast อาจจะเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ VinFast เติบโตได้อย่างรวดเร็วในการพัฒนา EV ก็เป็นได้

         ในประเทศเวียดนาม รถยนต์ไฟฟ้าของ VinFast ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ โดยในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา   มีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรุ่น VF8 ส่งไป 4,000 คัน แต่ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 มีการเรียกกลับมามากถึง 2,781 คัน จากปัญหาเรื่องของตัวเบรคคาลิปเปอร์ที่เอาไม่อยู่ ซึ่งเป็นการสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นของแบรนด์ VinFast พอสมควร

         บางคนคิดว่ากำลังซื้อของตลาดเวียดนามมีจำนวนน้อย จึงได้ไปรุกที่ตลาดสหรัฐอเมริกาเพื่อให้บริษัทเติบโตมากขึ้น แต่ต้องบอกว่าในสหรัฐอเมริกามีแบรนด์ที่คลองสัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเรียงตามลำดับ ดังนี้

          อันดับที่ 1 Tesla ครองสัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 65%

          อันดับที่ 2 Ford ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกัน ครองสัดส่วนตลาดรถไฟฟ้าเท่ากับ 7%

          อันดับที่ 3 KIA ครองสัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 5%

          อันดับที่ 4 Chevrolet ครองสัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 4%  

          อันดับสุดท้าย  Hyundai คลองสัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 4%  

          ซึ่งจะเห็นได้ว่า Tesla ที่คลองสัดส่วนของตลาดได้มากที่สุด เพราะว่ามีการประกาศลดราคาลงไปร่วม 2,000 USD แถมยังได้รับเงินสนับสนุนอีก 7,500 USD รวมกันทั้งหมดเกือบ 9,500 USD ถือได้ว่าเป็นราคาที่ลดลง        อย่างมาก สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างแบรนด์อื่น ๆ ได้ ยกตัวอย่าง Tesla Model Y ราคาขายอยู่ที่ 52,990 USD หลังจากการปรับราคาใหม่

          หากเปรียบเทียบกับ VinFast ที่เป็นแบรนด์ค่ายใหม่ เปิดตัว VF8 ราคาอยู่ที่ 59,000 USD เป็นราคาถือว่า    แพงกว่ามากและเป็นราคาที่ยังไม่ได้รับส่วนลด เพราะว่าไม่มีโรงงานผลิต 

         และจะมีตัว VF9 เป็นรถ SUV 7 ที่นั่ง ที่จะเตรียมเปิดทำตลาดและมีราคาที่สูงมากถึง 83,000 USD

         เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นอย่าง Hyundai IONIO 5 ซึ่งเป็นรถสัญชาติเอเชียที่หลายคนให้การยอมรับทั้งใน      เรื่องของแพลตฟอร์ม การดีไซด์เป็นที่ถูกใจ และราคาอยู่ที่ 42,745 USD

          แถม VinFast มีราคาที่เริ่มต้น 50,000 USD ถือว่าสู้ในตลาดค่อนข้างยาก มีสาเหตุมาจากชิ้นส่วนของรถ VinFast ส่วนใหญ่เป็นการจ้างผลิต พอปริมาณที่น้อยและจำนวนผลิตน้อย ทำให้มีราคาสูง เพราะตัว Bodyและ  ระบบไฟฟ้าจะผลิตที่ยุโรปประเทศเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนแบตเตอรี่จะนำเข้ามาจากจีน ส่วน Chipset ใช้ของ Intel สัญชาติอเมริกา ดังนั้นเมื่อรวมต้นทุนทั้งหมดจะสูงมากกว่าค่ายอื่น ๆ

         ซึ่งไม่เหมือนกับทาง Tesla ที่มีโมเดลจำนวนน้อยแถมผลิตจำนวนได้ในปริมาณมาก ทำให้สามารถลดต้นทุน      ลงไปอีก 2,000 USD จึงสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างขาดลอย ไม่แปลกใจที่ Tesla จะกินส่วนแบ่งในตลาดได้มาก

         เห็นได้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่สหรัฐอเมริกามีคู่แข่งจำนวนมาก แน่นอนว่า VinFast ต้องเจอยักษ์ใหญ่        อย่าง Tesla ที่สามารถกดต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลดราคาลงได้ถึง 2,000 USD ต่อคัน ยังมีทั้ง Ford หรือ Hyundai ที่สามารถผลิตรถไฟฟ้าในราคา 4 หมื่นกว่า USD เท่านั้น แต่ทาง VinFast เริ่มต้นราคาที่ 50,000 กว่าUSD มีความเสี่ยงต่อการเข้าไปแข่งขันในตลาด

          ประกอบกับงบการเงินของ VinFast มีทรัพย์สินอยู่ที่ 4,400 ล้านเหรียญ USD แต่มีหนี้อยู่ที่ 8,700 ล้านเหรียญ USD มากกว่าทรัพย์สินเกือบเท่าตัว รวมทั้งมีการขาดทุนสะสมอยู่ที่ 4,700 ล้านเหรียญ USD หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 155,000 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นการขาดทุนสะสมที่สูงมาก

         แต่อย่างไรก็ตามทาง VinFast จะไปตั้งโรงงานผลิตอเมริกาที่ North Carolina โดยมีแผนและระดมทุนมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับเงินทุนลงทุนที่ขาดทุนในช่วงแรกทางเจ้าของ Vingroup ที่เป็นมหาเศรษฐีของเวียดนาม คือ นาย Pham Nhat Vuong เขาซัพพอร์ตเงินส่วนตัวไปร่วม 4,000 กว่าล้าน แต่เขาบอกว่าจะซัพพอร์ตแค่ครั้งเดียว ถ้าครั้งนี้ VinFast ไม่สามารถตั้งโรงงานผลิตได้เพื่อที่จะเข้าร่วมขอมาตรการส่งเสริมเงินสนับสนุน 7,500 USD    เพื่อให้ราคาสามารถทำการแข่งขันในตลาดได้ แต่ถ้าขายไม่ได้เขาก็จะถอนตัวออกไป

          เบื้องต้นแผนการตั้งโรงงานจะเริ่มผลิตในปี 2024 แต่ตอนนี้แผนก็เลื่อนออกไปอีก โดยช่วงแรก VinFast        จะทำตลาดโดยการนำรถเข้าจากเมืองไฮฟองประเทศเวียดนาม นำไปขายในสหรัฐอเมริกาก่อน แล้วก็พัฒนารถตอนที่โรงงานตั้งเสร็จแล้ว และพัฒนาไลน์การผลิต เพื่อเริ่มผลิตจริงและขายน่าจะประมาณปลายปี 2024 ก็ต้องติดตาม กันต่อไป

          สรุปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า VinFast ของเวียดนามที่ไปรุกตลาดถึงสหรัฐอเมริกาและสำหรับการเปิดตัว VF8  รถ SUV Crossover ที่ประสบปัญหาการส่งมอบที่ล่าช้าและสมรรถนะที่ไม่ตรงปก ระยะทางวิ่งก็ไม่ได้ตรงตามที่เคลมเอาไว้ ระยะเวลาการชาร์จ ระบบความปลอดภัยอย่าง ADAS ก็ไม่ได้ใส่มาให้ เป็นการสร้างความประทับใจแรกที่    ค่อนข้างแย่ ทำให้ผู้บริโภคสินค้าชาวอเมริกันเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับแบรน ทำให้การไปต่อค่อนข้างยาก  และอย่าลืมว่าในตลาดอเมริกาก็มีแบรนด์หิน ๆ ที่เป็นคู่แข่งอย่าง Tesla ซึ่งทำให้ราคาถูกกว่าและดีกว่า แถมยังมีค่าย Ford, GM และHyundai เป็นแบรนด์ที่พร้อมจะมาตีได้ตลอด ถ้า VinFast ไม่รีบหาทางแก้เกมส์ต่อให้มีเงินเยอะ ก็มีโอกาสที่จะม้วนเสื่อกลับบ้านได้เหมือนกัน

Share

FOLLOW US


WELLDONE GUARANTEE

452 Pecthkraseam Rd. Laksong Bangkhae, Bangkok 10160
Email : welldone.guarantee@gmail.com Tel. 0889415944

Copyright © 2022 EV GUARANTEE All rights reserved.