กระบะไฟฟ้า ญี่ปุ่นดวลค่ายจีน: Toyota Hilux TRAVO-e กับคู่แข่งจีน

ตลาดกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างชัดเจน ความสนใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเทคโนโลยีแบตเตอรี่มีราคาถูกลงและให้ความคุ้มค่ามากขึ้น ก่อนหน้านี้มีกระบะไฟฟ้าแค่รุ่นเดียวในตลาด คือ LDV T60 กระบะแพลตฟอร์มรถ SUV ที่ปรับมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ตอนนี้ค่ายญี่ปุ่นอย่าง Toyota ก็ได้ส่ง Hilux Travel E เข้าทำตลาด กระบะไฟฟ้าที่ถูกออกแบบด้วยความทนทานและเหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยอย่างแท้จริง

เปรียบเทียบสเปคกระบะไฟฟ้า: LDV T60

LDV T60 ใช้แพลตฟอร์ม Multiplex Attach Platform ที่เป็นรถ SUV ดัดแปลงเป็นกระบะไฟฟ้า มีแบตเตอรี่ให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 63, 73 และ 86 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขุมพลังมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดียวขับเคลื่อนล้อหลัง 200 กิโลวัตต์ และแบบมอเตอร์คู่ All Wheel Drive 315 กิโลวัตต์ ให้แรงบิดสูงถึง 595 นิวตันเมตร

ระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้ตามมาตรฐาน NEDC คือ 455 กิโลเมตรสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 86 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จเร็วด้วย DC Fast Charge 110 กิโลวัตต์ ใช้แรงดันไฟ 400 โวลต์ จึงต้องใช้กระแสไฟฟ้าสูงถึง 275 แอมป์ ทำให้ต้องเลือกเครื่องชาร์จที่เหมาะสมเพราะไม่ใช่ทุกตู้ DC Fast Charge จะรองรับได้เต็มประสิทธิภาพ

โครงสร้างของ LDV T60 เป็นโมโนคอค (unit body) เหมือนรถ SUV ช่วงล่างหน้ามี MacPherson และหลังแบบ Multilink ทำให้มีความนุ่มนวลเหมือนรถ SUV มากกว่ากระบะ

เรื่องน้ำหนักบรรทุกรถรุ่นนี้สูงถึง 1,030 กิโลกรัม ส่วนลากจูงได้ประมาณ 3 ตัน ถือว่าแรงพอตัวแต่ยังไม่ได้ทำยอดขายโดดเด่นนัก

Toyota Hilux Travel E: กระบะไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่น

Toyota Hilux Travel E เป็นกระบะไฟฟ้าที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย เนื่องจากตลาดกระบะของไทยเป็นอันดับ 2 ของโลกและมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ รุ่นนี้มีทั้งรุ่นพลังงานดีเซลและไฟฟ้า โดยรุ่นไฟฟ้ามาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 59.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 315 กิโลเมตร ส่วนวิ่งใช้งานจริงมีแนวโน้มอยู่ที่ 230-250 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความเร็วและน้ำหนักบรรทุก

มันถูกออกแบบให้เป็นกระบะไฟฟ้าแท้ ซึ่งทำยากกว่ารถ SUV หรือเก๋งไฟฟ้าทั่วไป เนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักบรรทุก และบริหารจัดการพลังงานอย่างสมดุล โดยรุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน Dual Motor All Wheel Drive กำลังรวม 144 กิโลวัตต์ ซึ่งน้อยกว่าของ LDV T60 อย่างชัดเจน

แรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่เป็นสถาปัตยกรรม 300 โวลต์ ซึ่งต่ำกว่าค่ายจีนที่ใช้ระบบ 400 หรือ 800 โวลต์ การชาร์จเร็ว DC Fast Charge รองรับได้ 125 กิโลวัตต์ แต่การชาร์จผ่านตู้ชาร์จ 120 กิโลวัตต์ทั่วไปจะได้กำลังชาร์จเพียงประมาณครึ่งเดียว เพราะต้องการกระแสสูงมากถึง 422 แอมป์ ซึ่งตู้ชาร์จส่วนใหญ่จ่ายได้ราว 200 แอมป์เท่านั้น

รองรับการชาร์จ AC ได้สูงสุด 10 กิโลวัตต์ ช่วงล่างเป็นแบบแหนบเพื่อรองรับการบรรทุกหนักตามแบบฉบับกระบะโครงสร้าง Ladder Frame ของ Hilux ดั้งเดิม โดยแบตเตอรี่ติดตั้งในตำแหน่งตรงกลางของแชสซีส์ ทำให้มีความแข็งแรงและทนทาน น้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ 715 กิโลกรัม และลากจูงได้ 1.6 ตัน ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,491,000 บาท

กระบะไฟฟ้าจีนใหม่ MG Maxus Eter 9

MG Maxus Eter 9 กระบะไฟฟ้าค่ายจีนรุ่นใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในงาน Motor Expo 2025 เป็นกระบะไฟฟ้าไซส์ใหญ่ รูปลักษณ์คล้าย Ford F150 มีแบตเตอรี่ชนิด LFP (Lithium Iron Phosphate) ขนาด 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ 430 กิโลเมตร วิ่งใช้งานจริงน่าจะ 300 กิโลเมตรขึ้นไป

ใช้มอเตอร์แบบ Dual Motor All Wheel Drive กำลังรวม 325 กิโลวัตต์ รองรับ DC Fast Charge 115 กิโลวัตต์ สถาปัตยกรรมแรงดัน 800 โวลต์ ทำให้ชาร์จเร็วและใช้กระแสน้อย ใช้กระแสประมาณ 125 แอมป์เท่านั้น

ช่วงล่างเป็นอิสระ 4 ล้อ พร้อม Air Suspension ที่ปรับระดับได้ โครงสร้างเป็นแบบโมโนคอค (Monocoque) วางแบตเตอรี่ใต้พื้นรถ น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 620 กิโลกรัม ลากจูงถึง 3.5 ตัน ราคาประมาณช่วงล้านกลางๆ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและแข่งได้กับ Toyota Travel E แบบเต็มที่

สรุปเปรียบเทียบกระบะไฟฟ้า 3 ค่าย

• ความทนทานโครงสร้าง: Toyota Hilux Travel E อันดับ 1 ด้วยโครงสร้างเฟรมแท้และช่วงล่างแบบแหนบ เหมาะสำหรับการใช้งานหนักและระยะยาว รองลงมา Maxus Eter 9 และ LDV T60 ตามลำดับ
• เทคโนโลยีแรงดันไฟและชาร์จเร็ว: Maxus Eter 9 นำด้วยสถาปัตยกรรม 800 โวลต์ รองลงมา LDV T60 400 โวลต์ และ Toyota ที่ 300 โวลต์ การชาร์จเร็วแตกต่างกันอย่างชัดเจน
• น้ำหนักบรรทุกสูงสุด: LDV T60 สูงสุดที่ 1 ตันกว่า Toyota 715 กิโลกรัม และ Maxus 620 กิโลกรัม
• น้ำหนักลากจูง: Maxus มีความสามารถสูงสุด 3.5 ตัน LDV 3 ตัน และ Toyota 1.6 ตัน
• อัตราการกินไฟต่อระยะทาง: LDV ประหยัดที่สุดที่ 22-25 กิโลวัตต์ต่อ 100 กิโลเมตร Toyota รองลงมาที่ 23-26 และ Maxus กินไฟมากที่สุดที่ 26-29 กิโลวัตต์ต่อ 100 กิโลเมตร

โดยสรุปแล้ว Toyota Hilux Travel E มีจุดเด่นที่ความทนทานและการใช้งานในไทย แต่ยังตามหลังค่ายจีนทั้งในเรื่องเทคโนโลยีแบตเตอรี่ การชาร์จเร็ว และระยะทางวิ่งที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตาม Toyota มั่นใจในบริการหลังการขายและความเชื่อถือได้ในตลาดไทย

เพื่อนๆ สามารถแสดงความคิดเห็นว่าชื่นชอบตัวไหน หรือมองว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่านี้อย่างไรได้ในคอมเมนต์ครับ

หากชอบคลิปนี้สามารถดูได้ทางด้านล่างนี้ ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ