GAC AION UT 500 Premium: ฟังก์ชันครบ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
GAC AION UT คือ City Car ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดด้วยโปรดักไลน์ที่ครบเครื่อง เริ่มตั้งแต่ Y Plus, HTCH H, V จนมาถึงโมเดล UT ซึ่งเป็นพระเอกของรุ่นนี้ และล่าสุดมีรถตู้ Plug-in Hybrid M8 เปิดตัวตามมาอีกด้วย
ที่ศูนย์ไออน GI สาขาพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี เราได้ทดลองขับ UT ทั้งในรุ่นเริ่มต้นและรุ่นพรีเมียม เพื่อดูว่ารุ่นพรีเมียมที่มีมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงสูงจะให้ความคุ้มค่ามากแค่ไหนเมื่อเทียบกับรุ่นเริ่มต้น
ฟีเจอร์และความปลอดภัยที่จัดเต็มในทุกรุ่น
ทั้งรุ่นสแตนดาร์ดและพรีเมียมของ UT จะได้รับกล้องรอบคัน 360 องศา เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกหน้า-หลัง 4 จุดพร้อมระบบ ADAS ที่ครอบคลุม เช่น Adaptive Cruise Control, ICA, ระบบเตือนและช่วยเบรก รวมทั้งระบบช่วยเปลี่ยนเลนส์อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มักจะพบในรุ่นราคาแพงกว่าเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีดีไซน์เฉพาะที่โดดเด่น เช่น ไฟหน้า LED สองสี ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ล้อแม็กที่แตกต่างระหว่างรุ่น เริ่มต้นใช้ล้อ 16 นิ้ว ขณะที่รุ่นพรีเมียมจะได้ล้อ 17 นิ้ว พร้อมยางคุณภาพสูงและประตูแบบซ่อนเรียบกับตัวรถ
สมรรถนะมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่โดดเด่น
รุ่นสแตนดาร์ดมีมอเตอร์กำลัง 100 กิโลวัตต์ หรือ 136 แรงม้า ขับเคลื่อนระยะทางสูงสุด 420 กม. ขณะที่รุ่นพรีเมียมจะได้มอเตอร์ 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า กับแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำระยะทางได้สูงถึง 500 กม. ซึ่งใช้แพลตฟอร์มและแบตเตอรี่เดียวกับ Y Plus รถ BSUV รุ่นพี่
การออกแบบโครงสร้างใต้ท้องรถแข็งแรงด้วยเฟรมขนาดใหญ่ พร้อมระบบกันชนและจุดยึดมอเตอร์แบบหนาพิเศษ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและ Heat Exchange ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้คงที่
ช่วงล่างปรับแต่งได้ รองรับสภาพถนนเมืองไทย
ช่วงล่างของรุ่นพรีเมียมมีการปรับปรุงและมีการเรียกลูกค้าเข้ามาเซ็ตช่วงล่างใหม่ให้เหมาะกับถนนในประเทศไทยที่ไม่เรียบแบบจีน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ลดอาการเด้งสะบัดและยวบที่เกิดขึ้นจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของรถ
ทดสอบจริงในถนนที่ขรุขระ พบว่ารถสามารถเก็บแรงสะเทือนได้ดี ไม่เด้งวูบวาบ และสร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้มากกว่ารุ่นเริ่มต้นอย่างชัดเจน
พื้นที่อเนกประสงค์ เบาะพับเรียบ นอนได้
เบาะหลังของ UT สามารถปรับได้ถึง 3 แบบ รวมทั้งพับเรียบนอนได้ โดยถอดหัวเบาะหน้าเพื่อขยายที่นอนได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้สำหรับการเดินทางหรือตั้งแคมป์
มีแอร์แถวหลังเพื่อความสบายของผู้โดยสาร และที่เก็บของที่ปรับเพิ่มพื้นที่ได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้รถมีความอเนกประสงค์และใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน
ระบบชาร์จและบริการหลังการขาย
ช่องชาร์จของ UT อยู่ด้านหน้าฝั่งขวา รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุด 7 กิโลวัตต์ และ DC ชาร์จเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลวัตต์ ในรุ่นพรีเมียม ส่วนรุ่นสแตนดาร์ดรองรับ DC ที่ 70 กิโลวัตต์
บริการหลังการขายที่ศูนย์มีครบทั้งการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ การเช็คระยะทั่วไป และ Fast Lane สำหรับแท็กซี่ไฟฟ้า พร้อมการรับประกันตัวรถนานถึง 8 ปี หรือ 160,000 กม. ส่วนแบตเตอรี่และมอเตอร์รับประกันนานถึง 8 ปีหรือ 200,000 กม.
ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาไม่สูง
ค่าเช็คระยะของ UT ใน 100,000 กม. อยู่ที่ประมาณ 22,873 บาท เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ยุ่งยาก มีแค่การเปลี่ยนของเหลวและไส้กรองตามรอบที่กำหนด ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
การทดสอบการใช้พลังงาน
ทดสอบจริงการใช้พลังงานบนถนนจริงโดยขับทางไกลด้วยความเร็วประมาณ 110-120 กม./ชม. พบว่า UT ใช้ไฟประมาณ 15.3 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม. ซึ่งถือว่าไม่สูงนักสำหรับรถไซส์นี้
เมื่อนำมาขับในเมืองความเร็วต่ำ โหมด Comfort ปกติ พบการใช้พลังงานประมาณ 14.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม. และค่าไฟต่อ กม. ต่ำมากเพียงประมาณ 0.69 บาท นับว่าประหยัดพลังงานกว่ารถ BSUV ที่ขับทางไกลด้วยความเร็วสูง
สรุปความคุ้มค่า
GAC AION UT 500 Premium คือ City Car ไฟฟ้าที่จัดเต็มฟังก์ชันความปลอดภัย สมรรถนะดี และความคุ้มค่าในราคาที่ไม่เกิน 650,000 บาท รุ่นเริ่มต้นทำราคาได้ดีมากไม่เกิน 500,000 บาท พร้อมฟีเจอร์มาตรฐานครบครัน
ถ้าคุณเน้นรถที่ขับในเมืองได้ประหยัดและฟังก์ชันครบ รุ่นเริ่มต้นเหมาะมาก แต่ถ้าต้องการความแรงและช่วงล่างที่มั่นใจได้สำหรับการใช้งานจริง รุ่นพรีเมียมจะตอบโจทย์กว่าอย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีและระบบที่ออกแบบเพื่อรองรับชีวิตเมืองไทยอย่างแท้จริง
สำหรับผู้สนใจสามารถไปทดลองขับและสัมผัสตัวจริงได้ที่ศูนย์ ION GI สาขาพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี พร้อมโปรโมชั่นและรถพร้อมส่งมอบทันที
หากชอบคลิปนี้สามารถดูได้ทางด้านล่างนี้ ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ
