วันนี้เราอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของทางแบรนด์ BYD เป็นที่วิจัยและพัฒนา (Research and Development)
และเป็น Museum ที่แสดงความเป็นมาของแบรนด์ BYD (Build Your Dream)
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ BYD จะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่
นาย หวัง ชวนฟู มองเห็นว่าสิ่งที่ต้องการมากที่สุดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คือ เรื่องของตัวเก็บ
พลังงาน หรือแบตเตอรี่ จึงเริ่มมีการทำแบตเตอรี่มือถือที่ร่วมมือกับแบรนด์แรก คือ Motorola รองลงมาจะเป็นแบรนด์ Nokia ส่งผลให้ธุรกิจแบตเตอรี่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่เกิดจุดเปลี่ยนจากเรื่องของรถยนต์น้ำมันที่สร้างมลภาวะต่อโลกอย่างมาก ดังนั้นเรื่องของพลังงาน
จึงไม่ควรหยุดอยู่ที่แบตเตอรี่มือถือ จึงมีการก้าวเข้าไปสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ โดยทำการซื้อแบรนด์รถยนต์หนึ่ง
จากประเทศจีนและนำมาพัฒนาจนเกิดเป็นเทคโนโลยี เรียกว่า Plug-in Hybrid ครั้งแรกของโลก คือ
รถ BYD F3DM ซึ่งเป็นรถยนต์น้ำมันนำมาเปลี่ยนเป็นรถ Plug- in Hybrid
เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ ถึงขนาดที่ นาย Warren Buffett ต้องการซื้อหุ้นในการลงทุนกับบริษัท BYD
จากการมองว่าเป็นบริษัทที่มีอนาคต
หลังจากนั้น BYD จึงพัฒนามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุตสาหกรรมรถไฟไฟฟ้า
เอาแบตเตอรี่มาต่อยอด จนถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มออกมา
นอกจากนี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทาง BYD ทำการต่อยอดในเรื่องของการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ
ยานยนต์ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของรถยนต์ เพราะเรื่องของการขับขี่
จะไม่มีเพียงแค่เรื่องของพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนสำคัญ
เห็นได้จากการจดสิทธิบัตรทางปัญญาจำนวนมาก ส่งผลให้แบรนด์ BYD อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก
Hall แสดงรถยนต์ของ BYD
Yangwang U8
เป็นแบรนด์เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุด อย่างที่ทราบว่า BYD ทำตลาดกลุ่มรถพรีเมี่ยม ซึ่งแบรนด์ Yangwang
รุ่น U8 เป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ เทียบเท่ากับรถยนต์ Land Rover Defender
ซึ่ง Yangwang U8 จะเป็นรถยนต์ที่มีการรวมใส่เทคโนโลยีทั้งหมด คือ แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบช่วยการขับขี่
รวมถึงในส่วนของด้านบนจะมีระบบ LiDAR (ระบบตรวจจับแสงและวัดระยะ) และ ADAS (ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ)
ประกอบกับตัวมอเตอร์ระบบขับเคลื่อนมีทั้งหมด 4 ตัว ที่แต่ละล้อทำงานแยกต่อกัน รวมถึง Yangwang U8
จะมีแพลตฟอร์มทั้งหมด 2 แบบ คือ แพลตฟอร์ม DMi (การใช้มอเตอร์ควบคู่เครื่องยนต์) และแพลตฟอร์มที่เป็น
รถยนต์ไฟฟ้า 100%
รถยนต์ขนาดใหญ่จะมีข้อจำกัด คือ การเข้าโค้ง การกลับรถ และการยูเทิร์น แต่สำหรับ Yangwang U8
มีมอเตอร์ทั้งหมด 4 ล้อ ที่ทำงานแยกต่อกัน ทำให้รถสามารถหมุน 360 องศาได้อย่างอิสระ เรียกว่า การหมุนแบบ
รถถัง (Tank Turn) คือ ล้อหนึ่งจะทำการหมุนไปข้างหน้าและล้อส่วนอีกฝั่งจะหมุนคนละทาง ส่งผลให้ตัวรถสามารถหมุนเป็นวงกลม ซึ่งจะช่วยในการกลับรถ
นอกจากนี้ Yangwang U8 มีขุมพลังจากการใช้ Blade Battery ตัวล่าสุดที่เป็นแพลตฟอร์มตัวใหม่
เพราะฉะนั้น Yangwang U8 จะไม่ใช่เป็นรถยนต์ แต่จะเป็น Gadget ขนาดใหญ่
Denza D9
เป็นรถตู้ไฟฟ้าที่เกิดจากการร่วมมือระหว่าง BYD และ Mercedes-Benz ซึ่งยังไม่ได้มาทำตลาดในประเทศไทย
Denza N7
รถยนต์ไฟฟ้า 100% SUV ที่มีความกว้างขวาง เป็น Segment แบบเดียวกันกับ Tesla Model Y
ส่วนที่น่าเสียดาย คือ ไม่มีการนำรถ Denza N7 เข้ามาทำมาตลาดในประเทศไทย ส่วนรถ BYD ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คือ BYD Song L
ส่วนของมือเปิดประตูแบบซ่อนที่ใช้การจับและหุบกดเข้าไป ภายในแถวที่สองจะประกอบด้วย หลังคากระจก
ที่มีเฉดสามารถกดเปิดและปิด แอร์ตรงกลาง และที่เสียบชาร์จ Type – A และ Type – C
ส่วนของท้ายรถ
BYD Seagull
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก การดีไซน์ลักษณะภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ซี่งลูกค้าในประเทศไทยมีความต้องการ
ให้ทาง BYD นำเข้ามาขายอย่างมาก เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาไม่แพง โดยราคาที่ต่างประเทศจะอยู่ที่
400 USD หรือ ตีเป็นเงินไทยราคาจะไม่เกิน 450,000 บาท รวมถึงมีการใช้ e-Platform 3.0 เช่นเดียวกับ
BYD Dolphin
ส่วนของแบตเตอรี่มี 2 สเปค คือ
1. ความจุแบตเตอรี่ 30 kWh สามารถวิ่งได้ในระยะทาง 300 กม. ต่อ 1 การชาร์จ
2. ความจุแบตเตอรี่ 38 kWh สามารถวิ่งได้ในระยะทาง 405 กม. ต่อ 1 การชาร์จ
ตามมาตรฐาน CLTC
รวมทั้งระบบมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังอยู่ที่ 55 กิโลวัตต์ หรือ 74 แรงม้า
ส่วนของท้ายรถ
จะเป็นรถ Eco Car เบาะด้านหลังจะเป็นการปรับพับทั้งอัน จะไม่ใช่การพับเบาะเป็นแบบ 60:40
ด้านในของรถ BYD Seagull
ส่วนของแถวด้านหน้า
ส่วนของแถวด้านหน้าจะประกอบด้วย Wireless Charging จอเล็ก จอกลาง และ USB Charge
การเข้าเกียร์จะคล้ายคลึงกับ BYD Dolphin รวมทั้งวัสดุที่ใช้จะค่อนข้างดี
ส่วนของแถวด้านหลัง
ภาพรวมมีขนาดกว้างและความสูงอยู่ในระดับดี
การทดสอบรถ SUV ไฟฟ้า ขนาดกลาง
เราจะทดสองนั่งรถยนต์ไฟฟ้าชื่อว่า BYD Song Plus
หลายคนบอกว่ากระดอง คือ Seal U เป็นแพลตฟอร์ม DMi ที่นำเครื่องยนต์มาใช้ควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า
รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า SUV ไซด์กลางรุ่นนี้มีจุดมุ่งหมายน่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยประมาณช่วงปี 2024
ต่อจากรุ่น BYD Seal
นอกจากนี้การบอกว่า BYD Song Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ e-Platform 3.0
ใช้เทคโนโลยี CTB (cell-to-body) หรือการออกแบบแบตเตอรี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวถัง แบบเดียวกับรุ่น BYD Seal
ภายในของรถ BYD Song Plus
การทดลองนั่ง BYD Song Plus
เนื่องจากว่า BYD Song Plus จะเป็นพวงมาลัยซ้าย ทางเราจึงนั่งในฝั่งของผู้โดยสารแทน
จะเห็นได้ว่าส่วนของห้องโดยสารมีความโปร่ง การออกแบบคอนโซลมี Ambient Light ส่วนของแอร์จะอยู่
ตรงกลาง และมีที่ชาร์จอยู่ด้านล่างแอร์
ชุดเกียร์จะคล้ายคลึงกับ BYD Seal โดยตัวเกียร์จะเป็นคริสตัลที่มีไฟฟ้าทริปออกมา ส่วนหน้าจอตรงกลางจะสามารถกดหมุนจากแนวนอนมาเป็นแนวตั้ง
ส่วนของเพดานจะมีความสูงค่อนข้างมาก และมีกระจกบนหลังบนหลังคาที่มีเฉดสามารถกดปิดและเปิด
รถ BYD Song Plus สามารถวิ่งได้ในรยะทาง 500 กว่ากม. ต่อ 1 การชาร์จ
ส่วนของแถวด้านหลัง
จะเห็นได้ว่าพื้นด้านล่างจะเป็นแพลตฟอร์ม Cell to Body (CTB) มีแอร์ตรงกลางแบ่งเป็นด้านซ้ายและขวา
มีที่ชาร์จ รวมทั้งขนาดของห้องโดยสารทั้งความสูงและความกว้างจะเป็นแบบรถ SUV
ส่วนของท้ายรถ
มีพื้นที่ความกว้างขนาดใหญ่
การชาร์จของ BYD Song Plus
จะเป็นหัวชาร์จแบบ GB/ T ที่มีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของตัวรถ
ด้านซ้ายจะเป็นการชาร์จแบบ DC Fast Charge
ด้านขวาจะเป็นการชาร์จแบบ AC
ดังนั้นในปี 2024 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV ไซด์กลาง จะมีการทำตลาดอย่างดุเดือดอย่างแน่นอน
ซึ่ง BYD Song Plus ที่ชื่อในต่างประเทศ คือ BYD Seal U จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจ
สำหรับวันนี้ที่เราพาเจออาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ BYD (Build Your Dream) ที่เมืองเซินเจิ้น สามารถเห็นถึงจุดเริ่มต้นจากผู้ผลิตแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป มือถือ และการก้าวเข้ามาสู่วงการรถยนต์ จนกลายมาเป็น
รถยนต์พลังงานใหม่ที่มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองตั้งแต่ Plug-in Hybrid หรือ DMi จนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100%
ดังนั้นการพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าย่อมจะต้องนึกถึงชื่อ BYD ซึ่งมีเทคโนโลยี Blade Battery สร้างมั่นใจ
ในเรื่องของความปลอดภัยที่มีมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียม NMC ทั่วไป จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ BYD สามารถเติบโต
อย่างยิ่งใหญ่ได้ในปัจจุบัน โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี
เรื่องราวของ BYD จากผู้ผลิตแบตเตอรี่ มาเป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งความน่าสนใจของรถ BYD Seal U
ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงปี 2024 ซึ่งคุณสามารถดูได้จากคลิปด้านล่าง ถ้าหากคุณชอบคลิปนี้ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ