ศึก EV ไทย: ค่ายญี่ปุ่นเจอศึกหนักจาก EV จีน

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ในประเทศไทยปีนี้มีความเคลื่อนไหวที่ดุเดือดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเข้าร่วมของค่ายรถญี่ปุ่นถึง 5 ค่าย ที่เข้ามาแข่งขันกับค่ายจีนที่เคยครองตลาดอย่างเหนียวแน่นมาก่อน เราได้เห็น Toyota, Honda, Mazda, Nissan และ Suzuki ที่ลุกขึ้นมาพร้อมกับโมเดล EV ใหม่ ๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทย

หนึ่งในสาเหตุที่ค่ายญี่ปุ่นมาช้ากว่าเพื่อนนั้น มาจากกระบวนการทำงานที่มีความละเอียด รอบคอบ และต้องผ่านระบบตรวจสอบคุณภาพเข้มงวดโดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) ที่ทำให้กระบวนการเปิดตัวล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนั้นมีเหตุการณ์ที่ทีมวิศวกรถูกเรียกกลับมาทบทวนมาตรฐานเก่า ๆ ซึ่งส่งผลต่อแผนงานในช่วงที่ผ่านมา

แผนกลยุทธ์และโมเดลที่เตรียมเปิดตัว

ในปี 2024 นี้ เราจะได้เห็น Toyota ปล่อย BZ4X และ Hilux Travel E กระบะไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีมอเตอร์คู่และชิ้นส่วนจาก BZ4X รวมถึง Honda ที่เตรียมส่ง ENP2 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้นมาทำตลาด ร่วมไปกับ Mazda ที่มี Mazda 6E หรือ EZ6 ในจีนและกำลังทดสอบในไทย ส่วน Nissan กับโมเดล N7 ยังอยู่ในช่วงคลุมเครือ และ Suzuki ก็นำเข้ารถ EVITARA จากอินเดีย เพื่อเสริมตัวเลือกในตลาด EV ไทย

จุดเด่นของค่ายญี่ปุ่น คือการสร้างฐานบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสูง มีเครือข่ายโชว์รูมทั่วประเทศ พร้อมระบบซัพพอร์ตช่างซ่อมบำรุงที่มาตรฐานสูง ที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากค่ายจีนที่ยังมีความแตกต่างเรื่องความชำนาญและระบบหลังบ้านในการบริการ

กลยุทธ์การแข่งขันและภาพรวมตลาด

ค่ายญี่ปุ่นไม่ได้ต้องการสู้ในสงครามราคากับค่ายจีน แต่เน้นสร้างทางเลือกด้วยคุณภาพและบริการที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตามราคาของรถญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงประมาณ 1–1.8 ล้านบาท โดยจะไม่แข่งขันด้วยราคาถูกจนกดระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาทหรือตีเกิน 2 ล้าน

ในขณะที่ค่ายจีนมีการลดราคากระหน่ำส่งเสริมยอดขาย ค่ายญี่ปุ่นยึดมั่นที่การสร้างมูลค่า (value) ในด้านบริการหลังการขายและความเชื่อมั่นของแบรนด์ ซึ่งจุดนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคและสร้างความแข็งแกร่งในตลาดระยะยาว

นอกจากนี้ ค่ายญี่ปุ่นยังวางกลยุทธ์ร่วมมือกับพันธมิตรจีนในแบบ Joint Venture (JV) เพื่อลดต้นทุนการผลิต และใช้ประโยชน์จากการนำเข้าด่านศุลกากร 0% ตามข้อตกลงการค้าเสรี ทำให้มีโอกาสแข่งขันในตลาดไทยได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า

อนาคตของตลาด EV ไทยกับศึกรถยนต์ไฟฟ้าจากสองฝ่ายใหญ่

ในคืนและวันข้างหน้า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้น ระหว่างค่ายญี่ปุ่นที่เน้นคุณภาพและความพรีเมียม กับค่ายจีนที่ใช้การรุกตลาดด้วยราคาประหยัดและจำนวนมาก สร้างทางเลือกให้ผู้บริโภคหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น

นอกจากการแข่งกันในส่วน EV ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ทั้งไฮบริดและพลังงานไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ ที่พร้อมให้ผู้บริโภคเลือกจากหลากหลายรูปแบบรถยนต์ในตลาดไทย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเลือกขุมพลังและแบรนด์แบบใดก็มีตัวเลือกไม่ขาดสาย

สุดท้ายนี้ การที่ค่ายญี่ปุ่นเข้ามาด้วยความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายและคุณภาพสินค้า ถือเป็นความคุ้มค่าที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่ง แม้จะต้องจ่ายแพงกว่ารถจีนบ้าง แต่ก็แลกด้วยความสบายใจในการใช้งานและดูแลรักษาระยะยาว

เราคงต้องจับตามองกันต่อไปว่าศึกครั้งนี้จะจบลงอย่างไร และใครจะเป็นผู้ชนะในสนามแข่งขัน EV ของประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้

หากชอบคลิปนี้สามารถดูได้ทางด้านล่างนี้ ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ