เจาะลึก JAECOO 5 EV รุ่น Dynamic กับ Max

ในตลาดรถยนต์ SUV ไฟฟ้า ที่ราคาต่ำกว่า 600,000 บาท ถือเป็นเรื่องปกติใหม่เมื่อ JAECOO 5 EV เปิดตัวด้วยราคานี้ มีรุ่นย่อยให้เลือกได้แก่ Dynamic รุ่นเริ่มต้น และรุ่น Max ตัวท็อป ราคาต่างกัน 50,000 บาท (549,000 บาท และ 599,000 บาท) ทั้งสองรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหน้าขนาด 157 กวัตต์ หรือ 211 แรงม้า แบตเตอรี่ LFP ความจุ 58.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP

ดีไซน์และฟีเจอร์ภายนอก

ดีไซน์ของ JAECOO 5 EV ได้รับอิทธิพลจาก Range Rover โดยมีเส้นสายที่ดูคลาสสิกและหรูหรามากกว่ารถ EV ทั่วไป ไฟหน้าเป็น LED แบบ 2 เส้น กับไฟลูกแก้ว ภายในตะแกรงหน้าที่เป็นรู ช่วยเพิ่มความโมเดิร์น รุ่น Max มีหลังคากระจกแก้วที่เปิดซันรูฟได้ ขณะที่รุ่น Dynamic หลังคาทึบ ฝาท้ายไฟฟ้าเฉพาะรุ่น Max ส่วนรุ่น Dynamic เปิด-ปิดด้วยมือทั่วไป

รุ่นทั้งสองให้ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างและกล้อง Ultrasonic 2 ตัวกล้องหน้าและด้านข้าง นอกจากนี้รุ่น Max มีฟังก์ชันปรับกระจกพับเมื่อล็อก และเบาะหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้าสำหรับความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Dynamic ใช้เบาะผ้าและปรับด้วยมือ

ระบบชาร์จและสมรรถนะการขับขี่

จุดชาร์จไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าฝั่งขวาผู้ขับ แบบ Max รองรับการชาร์จ AC สูงถึง 11 กิโลวัตต์ ซึ่งใกล้เคียงกับรถ Tesla ในขณะที่ DC รองรับสูงถึง 80 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและความทนทานของแบตเตอรี่และมอเตอร์ มอเตอร์ติดตั้งกับโครงเหล็กหนาแข็งแรง มีแท่นยึดสามจุด เสริมความมั่นคงและความคงทน โดยรวมเป็น Generation 2 ของแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถไฟฟ้า

ช่วงล่างใช้ปีกนกเหล็กหนา 2 มม. แบบประกบแข็งแรง เหมาะกับรถ SUV สายลุย พร้อมชุดกันโครงมัลติฟังก์ชัน การวางแบตเตอรี่ใต้ท้องรถมีแผ่นป้องกันและแผ่นพลาสติกแข็งช่วยกันกระแทก แม้แผ่นปิดนี้ควรจะเป็นวัสดุเหล็กหรืออลูมิเนียมจะดีกว่า

ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงและการใช้งานจริง

ค่าเช็คระยะของ JAECOO 5 EV ทั้ง 2 รุ่น เท่ากัน มี 3 รายการหลักคือ ไส้กรองแอร์ น้ำมันเบรก และน้ำยาหล่อเย็น เป็นการเช็คระยะทุก 20,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 2,471 ถึง 4,946 บาท รวมเป็นค่าเช็ค 100,000 กิโลเมตร ประมาณ 15,145 บาท ถือว่าคุ้มและไม่แพงมากเมื่อเทียบกับรถไฮบริด

เมื่อลองขับจริง การกินไฟอยู่ที่ประมาณ 0.137 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร หรือคิดเป็นค่าไฟประมาณ 0.65 บาทต่อกิโลเมตร กับความเร็วเฉลี่ย 90 กม./ชม. สมรรถนะการขับขี่เหมาะกับผู้ใหญ่ที่ชอบรถใช้งานง่าย ไม่มีฟังก์ชันซับซ้อนเกินไป ระบบช่วยขับเช่น Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping มีให้ครบ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 แบบ (ประหยัด, มาตรฐาน, สปอร์ต) ช่วยให้ขับได้คล่องตัว

เก็บเสียงในระดับปานกลาง ช่วงล่างมีความหนึบแต่รู้สึกมีอาการโยนนิดหน่อย เวล่าเข้าโค้งเป็นธรรมชาติของรถ SUV ทัศนวิสัยดี กระจกกว้าง ความสูงจากพื้น 17.4 เซนติเมตร ช่วยให้ขับลุยน้ำหรืออุปสรรคได้ง่าย

สรุปความคุ้มค่าของ JAECOO 5 EV

ในราคาไม่เกิน 600,000 บาท JAECOO 5 EV เป็นรถไฟฟ้า SUV ที่มีขนาดตัวถังและฟังก์ชันโดดเด่น ทั้งสองรุ่นมีความเหมือนกันในสเปคแบตเตอรี่และมอเตอร์ แต่รุ่น Max จะได้ฟังก์ชันความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเช่น หลังคาแก้วปรับไฟฟ้า เบาะหนังปรับไฟฟ้า และฝาท้ายไฟฟ้า ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้มาและราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้รถรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดรถไฟฟ้า SUV ในไทย

การรับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตรสำหรับมอเตอร์และแบตเตอรี่ รวมถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตรสำหรับตัวถัง ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของรถรุ่นนี้

โดยรวม JAECOO 5 EV ถือเป็นรถไฟฟ้าน้องใหม่ที่มาแรงและพร้อมแข่งขันในตลาดไทยได้ดี กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใหญ่ที่ต้องการรถใช้งานง่าย ปลอดภัย และมีฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วน

หากชอบคลิปนี้สามารถดูได้ทางด้านล่างนี้ ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ