ตลาดกระบะไทยเดือดแน่!! กระบะไฮบริดญี่ปุ่น VS กระบะREEV จีน เแบบไหนตอบโจทย์ การใช้งาน!?

         ยุคของรถกระบะไฟฟ้า, SUV ขนาดใหญ่, VPV รถกระบะดัดแปลง 7 ที่นั่ง ซึ่งมีรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าออก
แต่มีจำนวนน้อยมากและราคาสูง ทางฝั่งค่ายรถญี่ปุ่น เพ่งเล็งในเรื่องภาษีสรรพสามิตรถเครื่องยนต์ดีเซล
จะมีการปรับลดการใช้งานลง ซึ่งค่ายรถจีน เน้นเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จึงเกิดศึกการปะทะค่ายรถญี่ปุ่นกับ
ค่ายรถจีน

ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น

         เริ่มที่ค่าย TOYOTA คือ รถกระบะ Hybrid ดีเซล รูปแบบที่มาเป็นอนาคตของรถกระบะพลังงานใหม่
ทาง TOYOTA รุ่นล่าสุด รวมถึงตลาดโลกทางฝั่งยุโรปและในออสเตรเลีย สิ่งที่มีการเปิดเผยพร้อมกัน 

ให้ทางสื่อมวลชนไทยได้ทำการทดลอง จะเป็นไฮลักซ์ 3 รูปแบบพลังงาน

พลังงาน 3 รูปแบบ

BEV

         เผยโฉมแล้วโดย BEV ซึ่ง TOYOTA HILUX BEV ถูกพัฒนาร่วมกับทางฝั่ง TOYOTA R&D ในออสเตรเลียที่มีการใช้ชุดช่วงล่าง, ชุดเพลาท้าย แบบดีอิออน ในรูปแบบของ Type ช่วงล่างที่ดีไซส์มาสำหรับรถปิคอัพที่ใช้

มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาจากด้านหลัง รวมถึงมีแหนบสามารถบรรทุกโดยเฉพาะ และมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง

         ซึ่งมีการพัฒนาและรวมจำหน่ายในประเทศไทยกับทาง CP Group มีการวิ่งใช้จริง ส่วนทางฝั่งออสเตรเลีย

นำจำหน่ายรูปแบบ Commercial สิ่งที่รถปิคอัพไฟฟ้าทั้งฝั่งของญี่ปุ่นและยุโรปเริ่มจะใช้ในเฟสแรก เนื่องจากมี
หลายธุรกิจที่มีความจำเป็น จะต้องใช้งานรถปิคอัพในรูปแบบของพื้นที่จำกัด อาทิ เหมือง, ธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ระยะทางสั้นภายในเมือง ซึ่งรถกระบะไฟฟ้าจะสามารถวิ่งในระยะทางต่อวัน 

เป็นการวิ่งระยะสั้นและในเส้นทางเดิม  Hilux Revo BEV ของ Genแรก มีระยะเป็น WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure เป็นมาตรฐานการวัดระยะทาง

ที่ใช้งานอยู่ในทวีปยุโรป) อยู่ที่ 300 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการทำธุรกิจในเฟสแรก

FCEV

         TOYOTA HILUX FCEV มีความน่าสนใจอยู่ที่ชุดเพลาท้าย, ชุดมอเตอร์, รูปแบบเพลาท้าย
แบบดีอิออน เหมือนรถยนต์รุ่นที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด แต่การเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่วางช่องกลางคัทซี จะมีการเปลี่ยนเป็นถังไฮโดรเจนขนาดยาว 2 ถังมาใส่แทน รวมทั้งระบบขับเคลื่อนเซลล์สแต็ค
ซึ่งเดิมทางด้านหน้าจะเป็นที่วางระบบ Inverter จะนำเซลล์สแต็คเข้าไปแทนที่ ทดแทนการชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้า จะเปลี่ยนมาเติมไฮโดรเจนเพียงใช้เวลาเติม 7 นาที
สามารถวิ่งได้ในระยะทาง 600 กิโลเมตร ความจุถังไฮโดรเจนประมาณ 5 นาที ต่อ 7 กิโลกรัม 

เมื่อเติมไฮโดรเจนประมาณ 3 นาที ของ Toyota Mirai จะวิ่งได้ในระยะทาง 800 กิโลเมตร

         ส่วนของรถปิคอัพมีการออกแบบให้มีการวางที่บอดี้แบบ 4 ประตู เผื่อน้ำหนักลากจูงที่
1,500 กิโลกรัม ตัวรถสามารถรองรับการเติมก๊าซไฮโดรเจน 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ในระยะ 600 กิโลเมตร
ซึ่งยังเป็นแนวคิดอยู่ระหว่างกัน เนื่องจากสถานีไฮโดรเจนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าสามารถทำและพัฒนาออกมาได้ในอนาคต การใช้งานจะเหมือนกับรถยนต์ตามปกติ
เพราะใช้เวลาเติมประมาณ 5 นาที สามารถวิ่งระยะทางถึง 600 กิโลเมตร

ดีเซลไฮบริด

         สังเกตจากรถยนต์ขนาดใหญ่ อาทิ TUNDRA, Land Cruiser จากเอาเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีบล็อก 2,400, 2,800, 3,000
จะเลือกใช้เพียงเครื่องยนต์ดีเซล บล็อกขนาดเล็ก 2,000 CC มาใช้พลังงาน ดีเซล ลดเหลือ 2,000 CC จากรถกระบะขนาดตันครึ่งใช้
เครื่องยนต์ที่เล็กลง หรือเบนซิน เป็น B6 3,000, บล็อก D ดีเซล 2,800 หรือ บล็อก 3,000 บล็อก V ดีเซล ซึ่งเป้าหมายในการพัฒนา บล็อกดีเซล 2,000 CC 4 สูบ แถวเรียงธรรมดา ตั้งเป้าที่การลด CC ให้เหลือ 2,000 CC พยายามดีไซส์มอเตอร์ไฟฟ้า
ให้อยู่ที่ 48 Volt และใช้แบตเตอรี่ 48 Volt มาทำงานควบคู่ เพื่อให้เกิดอัตราเร่งแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ดีเซล 3,000 CC
เป็นเป้าหมายในการพัฒนา

         เป็นการนำมอเตอร์มาเพิ่มเติมกำลังให้เป็น 48 Volt MILD HYBRID เครื่องดีเซลมีการทำงานตลอดเวลา
เมื่ออยู่กับที่เครื่องยนต์จะไม่ดับ

หลักการทำงานของเครื่องยนต์

FULLY HYBRID

         ซึ่งเครื่องยนต์กับมอเตอร์สลับกันทำงาน เมื่อมอเตอร์ทำงานตลอด แล้วเครื่องยนต์หยุดทำงาน เมื่อเร่งความเร็วระดับสูงขึ้นเครื่องยนต์ทำงาน ส่วนมอเตอร์หยุดทำงาน หรือช่วงมีการเร่งแซงและช่วงที่มีกำลังไฟที่มากพอทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์สามารถทำงานร่วมกัน เป็นการทำงานได้ทั้ง 3 รูปแบบ ทำงานทั้งในแบบขนานกันและร่วมกัน

MIND HYBRID

         กล่าวคือ มอเตอร์เป็นส่วนเสริมมาช่วยทำงาน โดยมีเครื่องยนต์ทำงานเป็นหลักตลอดเวลา คือ เครื่องยนต์ทำงานมีห้องว่าง ซึ่งอาจเป็นห้องเกียร์ เพื่อทำหน้าที่ส่งกำลังไปที่ล้อหลังแล้วนำมอเตอร์มาวางในส่วนนั้นใช้มอเตอร์รูปแบบ 48 Volt แบ่งเป็น 2 แบบ Motor Generator
โดยปกติเครื่องยนต์มีสายพานคล้องไปที่ตัวไดชาร์จ ทำหน้าที่ชาร์จไฟคล้องกับเพลาข้อเหวี่ยงด้านหน้าเครื่องยนต์
ค่ายเริ่มต้นฝั่งยุโรป คือ Mercedes-Benz ทำการเปลี่ยนยกเอาไดชาร์จธรรมดาออกแล้วนำเอา
ไดชาร์จที่มีกำลังขนาดใหญ่ใช้ไฟจาก 12 Volt สร้างกระแสไฟจ่ายออกให้เป็นการรับกระแสไฟ 48 Volt
ส่งผลให้แรงบิดสูงขึ้น

         เพื่อให้มีแรงบิดสูงมากขึ้นอยู่บริเวณแทนไดชาร์จเดิม โดยปกติจะใช้ไดชาร์จมอเตอร์ช่วยในการหมุนตอนสตาร์ท ในส่วนนี้เอาไดชาร์จเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นใช้ไฟมากขึ้นเพื่อใช้ทั้งตอนสตาร์ทและนำไดชาร์จต่อตรงยังเพลาข้อเหวี่ยงของตัวเครื่องยนต์โดยตรง

         เนื่องจากเพลาข้อเหวี่ยงเป็นตัวรวมกำลังของลูกสูบส่งกำลังไปบิดแกนเกียร์ เมื่อมีอัตราทดเกียร์วิ่งเคลื่อนที่
ซึ่งในระยะแรกมีความพยายามทำมอเตอร์เป็นรูปแบบแซนวิชขนาดบางแทรกระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์มีข้อคำนึงถึง
ความซับซ้อนความทนทานการใช้งานการซ่อมบำรุงมีความยุ่งยาก จึงทำการเอาไดชาร์จออก เพราะทำหน้าที่เป็น
การช่วยขับเคลื่อนเพลาข้อเหวี่ยง โดยตรงมาอยู่ข้างนอกตัวรถมองมอเตอร์ 48 Volt อยู่แทนที่ไดชาร์จจึงสามารถดึงเอาไฟจากแบตเตอรี่ 12 Volt

        ส่วนของ Motor Generator ทำหน้าที่ 2 หน้าที่ มีการเร่งช่วยมีการขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ CC จำนวนมาก ไม่ต้องมีเพลาที่มีแรงบิดสูง อาทิ เร่งมากการจ่ายน้ำมันน้อย
โดยให้มอเตอร์ออกแรงมากขึ้นแทน คือ รถยนต์จะมีใช้น้ำมันสูงสุดตอนที่มีการเร่งลากรถยนต์ขึ้น
จึงเติมหมุนที่เพลาโดยที่ไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นมีแรงบิดมากกว่าแรงบิดธรรมดาเปลี่ยนมาเป็น 48 Volt

         ทาง TOYOTA นำเครื่องบล็อกเดิมดัดแปลงเพิ่มเติมเป็นไดสตาร์ท 48 Volt ซึ่งรถกระบะของ TOYOTA MILD HYBRID 48 Volt ตลาดในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามาตีตลาด City Car, SUV Crossover รวมถึง Eco Car รถกระบะ และ BEV

มาตีตลาดกลับมาให้ คือ รถกระบะ MIND HYBRID 48 Volt ทางค่ายญี่ปุ่นผลิตออกมา

ค่ายรถยนต์จีน

         REEV การนำเครื่องยนต์มาปั่นไฟมีความใกล้เคียง Nissan Kicks ส่วนพวกปลั๊กอินไฮบริด
ก็มีความเหมือน Nissan Kicks ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนตลอดเวลา Nissan Kicks
จะมีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ทำให้เครื่องยนต์จึงทำงานหนักขึ้น กำลังโหลดเพิ่มและมีภาระเพิ่มรวมถึง
ใช้น้ำมันมากขึ้นตามอัตราการเร่งเครื่องยนต์ด้วย แต่ REEV หากมีการจูนที่มีประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์สามารถทำงานและเติมพลังงานไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่แบบเสถียรและต่อเนื่อง คือ
แบตเตอรี่คงเหลือที่ 30% สามารถเริ่มทำงาน หรือ เหลือ 20% โดยไม่รอให้แบตเตอรี่ใกล้แล้วจึง
มีการเร่งเติมไฟเร่งรอบให้สูงขึ้นและจ่ายกระแสในประมาณสูงเท่ากับประมาณแบตเตอรี่ที่ไม่พอใช้งานสามารถเลือกโหมดสั่งการที่หน้าจอ

         สำหรับผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้ระยะทางวิ่งปกติ 100 – 150 กิโลเมตร หลักของการใช้รถยนต์ปกติทั่วไปเท่ากับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งระยะ 100 กิโลเมตรขึ้นไป แต่เวลาที่ต้องวิ่งระยะทางไกลข้อเสียของรถ Plug-in Hybrid คือ เวลาวิ่งระยะทางไกลพลังแบตเตอรี่เริ่มหมดเครื่องยนต์หมดกำลังขับเคลื่อน ต่างกับช่วงช่วงที่มอเตอร์ทำงานอย่างเดียว เมื่อแบตเตอรี่หมดเกิดการทำงานรวมของเครื่องยนต์และมอเตอร์มีช่วงเร่งเครื่องยนต์มากเพื่อให้เท่ากลับตอนที่มีกำลังไฟทำให้มีการใช้ไฟมากกว่า

         ซึ่ง REEV หรือ EREV ใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ตลอดเวลา ซึ่งกำลัง Output จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง
กรณีมีไฟหรือไม่มีไฟ เมื่อไม่ไฟต้องมีการเติมไฟต่อ kW ตามที่ต้องการประมารไฟแต่ละครั้ง เมื่อเป็น REEV
ต้องคำนึงว่าเครื่องที่ได้มา 1,500 CC การสร้างกระแสไฟต่อ 1 kW  จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ 1 หน่วยค่าไฟ อาทิ รถกระบะ RAM ทางฝั่งประเทศอเมริกา เรียกว่า RE D นำมอเตอร์และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่

         รุ่น กระบะ RAM โหมดเพลา 2 ชุด ออกแบบเสื้อเพลามอเตอร์ใหม่ให้มอเตอร์อยู่ในเสื้อเพลาและชุดคอนโทรลขับเคลื่อน 4 ล้อ กำหนดได้สามารถขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อความต้องการวิ่งระยะไกล หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมอัตราทดโฟโลเพิ่มเข้ามา

         ส่วน REEV ผู้ใช้รถกระบะไฟฟ้าความรู้สึกถึงประโยชน์และความประหยัด และแรงบิดของรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงระยะใกล้ปกติโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่แพง เมื่อการเติมพลังงานไฟฟ้ารถกระบะ REEV สามารถวิ่งระยะทาง

160 กิโลเมตร แบตเตอรี่มีขนาดที่เล็กด้านราคาที่ถูก เนื่องจากต้นทุนมาจากลิเธียมที่มีราคาสูง
เวลาวิ่งระยะทางไกลเป็นรถ Plug-in Hybrid เมื่อไฟหมดมีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่า รถ Hybrid ทั่วไป เมื่อเป็นรถ REEV เวลาไฟหมดเสมือนเติมเครื่องปั่นไฟชาร์จไฟ ส่วนสมรรถนะของตัวรถยังเท่าเดิม

         ซึ่ง REEV เครื่องยนต์ต้องปั่นไฟมากกว่าสามารถคิดคำนวณค่าเฉลี่ยของไฟฟ้า Range Extend การเพิ่มระยะมีการเพิ่มแบตเตอรี่ อาทิ รถบรรทุกไฟฟ้าของเฮียพรชัยของธุรกิจโต๊ะจีนซื้อ CP Foton วิ่งระยะทาง 200 กิโลเมตร
มีความต้องการเพิ่มแบตเตอรี่ จากแนวทางระหว่างการเพิ่มแบตเตอรี่กับเครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้า  มีความเห็นเครื่องยนต์ปั่นไฟจะมีความคุ้มค่ามากกว่า อาทิ เพิ่มเติม 10 kWh ราคาอยู่ประมาณ 200,000 บาท สำหรับแบตเตอรี่มีราคาที่สูง ส่วนเครื่องยนต์ปั่นไฟ ราคาประมาณ 50,000 บาท แต่ส่วนของรถยนต์ที่ Built in มีสมรรถนะมากขึ้นเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า

         นอกจาก REEV ในด้านความทนทานเครื่องยนต์เสริมจะเป็นเบนซินผูกตรง เบนซินเทอร์โบ 

และเบนซินธรรมดา CC น้อย ในประเทศจีนใช้เบนซิน 1,500 CC อยู่ในรถยนต์แบตเตอรี่ขนาดเล็กจะให้เครื่องยนต์ปั่นไฟย้อนกลับ ส่วนตัวเครื่องยนต์ต้องประสิทธิภาพในด้านการใช้น้ำมันสร้างกระแสไฟในประมาณที่มากเพียงพอ อาทิ เครื่องปั่นไฟ 5 KVA ใช้ไฟต่อหน่วย ๆ ละ 15 บาท ผู้ใช้รถยนตืไฟฟ้าไม่เกิดความคุ้มค่า จะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จดีมากกว่า 7.50 บาท ต่อการชาร์จ

REEV ความคุ้มค่า

              1. คำนึงก่อนเรื่องกระแสไฟคำณวนแล้วหน่วยละเท่าไหร่บาท ค่าน้ำมันและกระไฟ 1 kW
ใช้น้ำมันเท่าไหร่บาท

              2. ประเภทของเครื่องยนต์ที่ใช้และระยะเวลาในการทำงานประสิทธิภาพสร้างกระแสไฟเพียงพอคุ้มค่ากับเสียอุปกรณ์บางชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการ อาทิ ถ่ายน้ำมันเครื่อง, หัวเทียน, วาล์ว, ไส้กรองอากาศ

              3. ต้องมีไลฟ์ไซเคิลการถี่มากขึ้นความจุลดลงอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตเตอรี่ก้อนใหญ่คำนึงถึงการใช้งานและรุ่นรถยนต์ที่ต้องการค่าประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการซื้อ

              4. ประสิทธิภาพของการทำงานเครื่องยนต์ Input กับ Output

              5. การซ่อมบำรุงถยนต์ไฟฟ้า จะมีการเช็คระยะนับเป็นชั่วโมงการทำงานแทน ระบบการทำงานที่ตั้งโปรแกรมมาก่อนหน้า จะใช้ระบบการแจ้งการเข้าศูนย์ Service ผ่านระบบคลาวด์ ผ่านระบบ Backup ภายในตัวรถ จะทำการแจ้งเตือน หรือข้อความจากตัวรถแจ้งเตือน  เมื่อครบกำหนดชั่วโมงทำงานให้เข้าศูนย์ทำการตรวจสอบ

         เหล่านี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต้องมีการเรียนรู้เพิ่มเติมและการทดสอบยังมีน้อยใช้ภายในประเทศจีนเงื่อนการใช้งานรถยนต์ของประเทศไทยกับประเทศจีนต่างกัน ที่ประเทศจีนเป็นกลุ่มรถยนต์ยอดจำหน่ายดี จากการแก้ข้อจำกัดจากแบตเตอรี่ที่มีราคาสูงตามขนาดแบตเตอรี่ รวมถึงระยะทางที่จำกัดและในบางพื้นที่ไม่มีสถานีชาร์จ อาทิ SUV ขนาดใหญ่, ลีออโต้ REV, รถกระบะบ้างประเภทก็มีใช้ จึงมองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถต่อยอดส่วนของไฮโดรเจน
แต่วันนี้เรามาชวนคิดกันว่าถ้า REEV เข้ามา จะเป็นจุดจบของรถ Hybrid หรือ Plug-in Hybrid ของค่ายญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย

         การทางประเทศจีนพัฒนาในรูปแบบ โดยไม่มีความสนในตลาดอื่น เนื่องจากตลาดภายในประเทศจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เทียบค่าไฟที่ประเทศไม่ถึง 1 หยวน ต่อ 1 หน่วย เป็นสกุลเงินไทยยังไม่ถึง 5 บาท คำนวณค่าน้ำมันเชื้อเพลิงราคาใกล้เคียงประเทศไทย เมื่อเทียบการค่าครองชีพที่จีนจึงถูกกว่าไทย
ค่าพลังงานที่จีนถูกการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าตามสภาพระบบสาธารณูปโภคมีการรองรับภายในประเทศ เทียบกับค่าไฟในไทยที่ขณะนี้ขึ้นมาจากค่า Ft 20 กว่าสตางค์ 

ตอนนี้เป็น 80 สตางค์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าบางส่วน

         ทิศทางแนวโน้มของผู้ที่เลือกใช้รถ REEV จะเป็นการใช้งานระยะสั้น และมีคุณภาพเหมือนใช้รถยนต์ไฟฟ้าประหยัด โดยเงื่อนไขถูกกว่ารถปิคอัพไฟฟ้า 100% รวมถึงเวลาเดินทางเรื่องวิ่งระยะทางไกล ไม่ต้องมีความกังวล เนื่องจากสามารถวิ่งได้ไม่ต้องจำกัดระยะทางตรงกับคุณสมบัติของรถ REEV กรณีที่ต้องใช้รถยนต์ในระยะทางไกลตลอดเวลา จะต้องใช้รถกระบะปิคอัพเครื่องยนต์ 1,500 CC และระบบไฟฟ้าในการดูแลเครื่อง 1,500 CC อีกเครื่องหนึ่ง อัตราสิ้นเปลืองไม่ประหยัดอย่างที่ต้องการไม่มีความคุ้มค่า

         และนี้คือความแตกต่างเรื่องคุณสมบัติของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นกับค่ายรถยนต์จีน หากชอบคลิปนี้สามารถดูได้ทางด้านล่างนี้ ขอฝาก กด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ

Share

FOLLOW US


WELLDONE GUARANTEE

452 Pecthkraseam Rd. Laksong Bangkhae, Bangkok 10160
Email : welldone.guarantee@gmail.com Tel. 0889415944

Copyright © 2022 EV GUARANTEE All rights reserved.