ในวันนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์ด้านการเทรนเรื่องเกี่ยวกับเทคนิเคิลการดูแล
หลังการขายเกี่ยวกับProduct คือ คุณMizจาก ขับซ่า Channel
ได้ไปงานกับทาง CHANGAN พบกับรถกระบะรูปแบบ REEV ชื่อรุ่น CHANGAN Hunter
เป็นรถกระบะใช้เครื่องยนต์ 2,000 เทอร์โบ 4 สูบ รวมมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลัง
แบตเตอรี่ขนาดบรรจุอยู่ที่โดยประมาณ 37.18 kWh เรียกว่า REEV หรือ EREV ที่มาจาก
Range Extended Electric Vehicle เป็นการใช้เครื่องยนต์ในการปั่นกระแสไฟ เพื่อยืดระยะ
เนื่องจากตัวรถกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่ จะต้องใช้พลังงานจำนวนมาก จึงมีราคาจำหน่ายที่สูง
ส่งผลกระทบถึงกลุ่มรถยนต์ไฮบริดของประเทศญี่ปุ่น
เมื่อกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตามสิทธิ์ประโยชน์ในการนำเข้าศูนย์เปอร์เซ็นต์
ซึ่งรถยนต์กลุ่มประเภทนี้ยังไม่มีการนำเข้าจากกำแพงภาษี ทั้งนี้เริ่มค่ายรถยนต์ไฟฟ้าหลายค่าย
อย่าง ค่าย BYD มีโครงการที่จะนำรถยนต์กลุ่มดังกล่าวเข้ามาผลิตในประเทศไทย
รถยนต์ไฮบริด
ค่ายรถญี่ปุ่น
เป็นแบบเครื่องยนต์สันดาป มีการใช้งานระยะเวลากว่า 100 ปี หรือ 120 ปี ส่วนของรถยนต์ Product มีแนวคิดที่จะให้เครื่องยนต์สันดาปใช้น้ำมันได้น้อยลง เป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องยนต์สันดาป หากประสบเรื่องรถติดต้องมีการเติมน้ำมันเข้าไปเพียงเพื่อที่จะเปิดระบบแอร์ รวมทั้งในช่วงเวลาที่
รถออกตัวทุกครั้ง เครื่องยนต์สันดาปทำการเคลื่อนออกตัวด้วยน้ำหนักของตัวรถประมาณ 1 ตัน
ตามแต่ละประเภทของรถ
ในทุกครั้งที่มีการออกตัว จะต้องลากน้ำหนักทั้งหมดให้เคลื่อนที่ ซึ่งเครื่องยนต์สันดาป
การส่งกำลังจนถึงแรงบิดสูงสุด โดยถ้าเป็นเบนซิลจะอยู่ที่ 3,000 – 4,000 รอบ ส่วนดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่ารอบ จำเป็นต้องมีเกียร์ รถเครื่องยนต์สันดาปมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ยังมีข้อจำกัดที่ว่าในการออกตัวแรงในแต่ละครั้ง จะต้องใช้พลังงานชดเชยจำนวนมาก
จึงมีการนำมอเตอร์มาใช้ช่วยเสริมในช่วงเวลาออกตัวของรถยนต์ เพื่อช่วยประหยัด
การใช้น้ำมันมากขึ้น จึงเรียกว่า Hybrid คือ การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ที่ทำงานแบบเก่าเข้ากับ
มอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ Genแรกมีทำหน้าที่หลัก คือ การช่วยในการออกตัว
ในปี 2023 TOYOTA มีการพัฒนาระบบ Hybrid เป็น Gen 5 ส่วนรถยนต์ TOYOTA ที่จำหน่ายในประเทศไทยจำนวนมากจะเป็น Toyota Prius gen 3 และ Toyota Camry 2005 อยู่ในช่วง Gen 3
เช่นเดียวกัน
ซึ่งรถยนต์ Hybrid ที่ปรับมาเป็น Gen 5 ใช้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมขนาดที่ไม่ใหญ่มาก
แต่จาก Hybrid เป็น Gen 5 มีการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ อาทิ 1,800, 2,000 หรือ 2,500 cc
ส่วนของมอเตอร์มีกำลังมากขึ้น สามารถทำงานในช่วงเวลาความเร็วสูงดีขึ้น
สิ่งที่เพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่ง คือ รถยนต์ Hybrid ตั้งแต่รุ่น Gen 4 ถึง Gen 5 มีการบริหารจัดการส่วนของเครื่องยนต์นำกำลังออกมาใช้ให้คุ้มค่าที่สุด โดยมีการเติมกระแสไฟอ่อน ๆ เพื่อช่วยทด
การใช้กำลัง ส่งผลให้การกินกำลังไม่มากเสมือนเวลาที่เวลาขี่จักรยานเสือหมอบมีการปั่นไต่ขึ้นเขา
การซอยเท้าถี่ ๆ กินกำลังไม่มากตัวรถจะประคองเคลื่อนที่ไปได้
ในส่วนของยุคใหม่ Gen 5 มีการเติมไฟเมื่อมีกำลังไฟที่มากพอตัวรถเครื่องยนต์สันดาปใช้
ระบบ Hybrid Gen ใหม่ ๆ จะมีพื้นฐานที่แตกต่างจากเครื่องปกติ เรียกว่า ระบบ Atkinson Cycle
ใช้เชื้อเพลิงที่ลดลงเปิดมีช่วง Overlaps การเผาไหม้สะอาดกินน้ำมันเชื้อพลังน้อยลง จะมีข้อเสียจากแรงบิดต่ำ แต่มีมอเตอร์มาเสริมกำลังในส่วนนี้
เทคโนโลยี Hybrid รับส่งในแต่ละส่วน อาทิ เครื่องยนต์เริ่มใช้งานหนักมอเตอร์เข้าเสริม,
มอเตอร์ใช้งานหนักเครื่องยนต์หลักเข้าเสริม หาค่าใช้พลังงานประหยัดพลังงาน กล่าวคือ ใช้พลังงานให้น้อยนำออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดเป็นในส่วนของค่ายรถญี่ปุ่น
ค่ายรถจีน
เริ่มทำผลิตรถยนต์เป็นแบบเครื่องยนต์สันดาปขึ้นมาให้เหมือนกับรถญี่ปุ่นเมื่อ 70 – 80 ปีก่อน โดยมีเสนอรถยนต์ที่มีความคุ้มค่า การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ความละเอียดในการทำงาน การตอบสนองของชุดเกียร์ ชุดระบบต่าง ๆ ในประเทศมีประสิทธิภาพมากพอ ช่วงระยะเวลา 10 ปี มองย้อนกลับมาทางประเทศจีนมีประสิทธิภาพแค่ในประเทศ แต่เมื่อออกสู่ต่างประเทศยังไม่มีความสามารถที่จะสู้กับประเทศอื่นได้ เป็นจุดเปลี่ยนมีการแข่งขันในกติกาสากล ประเทศยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอประเทศจีนจึงหันมาใช้กลยุทธ์ใหม่
ค่ายญี่ปุ่นสมัยรถยนต์ Hybrid เครื่องยนต์เป็นหลักใช้มอเตอร์เสริม ในส่วนของ Hybrid
ค่ายจีน เป็นการเริ่มทำโดยนำมอเตอร์เป็นหลักใช้เครื่องยนต์เป็นตัวเสริม คือ Range Extended Electric Vehicle ในปัจจุบันจีนได้เปรียบเรื่องของกติกาใหม่เรื่อง EV สามารถตอบโจทย์ในระยะหนึ่ง
เมื่อทำ EREV นำเครื่องยนต์มาปั่นไฟ แม้ในเรื่องของเครื่องยนต์ทางจีนจะพัฒนาสู่กับทางญี่ปุ่นไม่ได้ ก่อให้เกิด Hybrid สายพันธุ์ใหม่จัดอยู่ในกลุ่มไฟฟ้าการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและเน้นที่เครื่องยนต์
ทำหน้าที่เติมไฟ
ซึ่งจีนมีฐานตลาดแล้วสร้างความมั่นใจในเรื่องของความแตกต่างเรื่อง Hybrid e-Power และ REEV มีคุณสมบัติต่างกัน โดยเปรียบผู้ขับ e-Power การขับให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ไฟฟ้ามี
การใช้น้ำมันเพื่อเครื่องยนต์ปั่นไฟ ในส่วนของ Hybrid ขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กเท่ารถ Hybrid ทั่วไป
อยู่ประมาณ 1 kW หรือ น้อยกว่า 1 kW
ส่วนของ EREV หรือ REEV ในประเทศอเมริกาใช้เป็นเวลา 10 ปี อาทิ Chevrolet ใช้เครื่องยนต์ Hybrid เพื่อปั่นไฟไปที่มอเตอร์ไฟฟ้ามีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก
ต่อมาได้มีการพัฒนารถยนต์รุ่นที่,uแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถเสียบชาร์จเพิ่มเติมการทำงานรูปแบบเดียวกัน มีการทำปลั๊กอิน Hybrid มี่ความสามารถชาร์จ AC ทั่วไป แต่ปลั๊กอิน Hybrid
มีข้อเสีย เรื่องของสลับการทำงานกับเครื่องยนต์อยู่ EREVหรือ REEV กล่าวคือ Extended Range Electric Vehicle วางมอเตอร์ทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่เป็นหลักระบบทำงานควบคุมกระแสไฟหลัก หรือ BMF เวลาปกติทำงานคุมรับการชาร์จ การจ่ายไฟ ควบอุณหภูมิต่าง ๆ
ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไปยังเครื่องยนต์ตอนนี้พลังงานแบตเตอรี่น้อยลง
เครื่องทำงานจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อส่งไปยังมอเตอร์ เป็นการทำงานเหมือนกับ Hybrid
เพราะ Hybrid เครื่องยนต์ต้องทำงานตลอดเวลา คือ e-Power เนื่องจากไม่มีที่เก็บไฟเวลาที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานตัวรถจะวิ่งในระยะที่ไม่ไกลมาก เมื่อไฟหมดตัวรถหยุดทำงาน อาทิ Nissan Kicks e-Power แบตเตอรี่มีขนาด 1 กว่า เท่าแบตเตอรี่ Hybrid เป็นตัวสำรองเพื่อให้ใช้ในการวิ่งเครื่องยนต์ทำงานตลอดเวลา แบตเตอรี่มีการสื่อสารกับเครื่องยนต์การแจ้งค่าแบตเตอรี่น้อยลง SOC น้อยลง เครื่องยนต์ทำงานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
แบตเตอรี่
1. สามารปรับค่าแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่าเกณฑ์เครื่องยนต์ทำงาน
2. รูปแบบล็อตค่าแบตเตอรี่ให้ใช้งานมากที่สุด จนค่าแบตเตอรี่เหลือน้อยลงมาก เครื่องยนต์ถึงจะทำงาน
e-Power
มอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1 กว่า ไม่มีความสามารถที่จะจ่ายไฟ
ระยะเวลาต่อเนื่องมากพอ ทำให้มอเตอร์ทำหน้าที่ปั่นที่ตัว Generator ส่งกระแสไฟเข้าที่ Motor Drive ขับเคลื่อนชุดเพลาล้อโดยตรง
ในเวลานั้นเครื่องยนต์ต้องทำการปั่นจำนวนมากที่ Generator เพื่อชาร์จไฟโดยตรงในเวลาที่
ต้องใช้ความเร็วสุด ส่วนของเครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานเติมกระแสไฟเข้าแบตเตอรี่และใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่กลับมาที่มอเตอร์ สร้างกำลังแล้วเร่งเครื่องยนต์ปั่นไฟประมาณที่สูง เพื่อขับเคลื่อน
มอเตอร์เป็นการจ่ายกระแสไฟโดยตรงจะเป็นช่วงเวลาที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก
เมื่อการออกตัวที่แรงไม่สัมพันธ์ต่อการเร่งความเร็วรถยนต์แบบเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ CVT เป็นเพิ่มรอบสวิงมากขึ้น เพื่อสร้างสร้างกระแสไฟให้พอใช้งาน จึงเป็นสาเหตุของการที่ตัวรถกินน้ำมันมากกว่าปกติ แต่ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการขับขี่
EREV หรือ REEV (Extended Range Electric Vehicle)
เครื่องยนต์จะทำงานต่อกับมอเตอร์ปั่นไฟ มอเตอร์ Generator เชื่อมต่ออุปกรณ์ทำหน้าที่ปั่นไฟ
มีการออกแบบเมื่อออกจากเครื่องยนต์ผ่านอัตราทดขนาดเล็กจำนวนมาก เสมือนเกียร์อัตโนมัติ
และนำกระแสไฟออกไปที่ชุดมอเตอร์ Generator อยู่ในอัตรารอบต่ำหรือเพิ่มอัตราการเร่งรอบขึ้นมาเพื่อเป็นการสร้างกระแสไฟเก็บในแบตเตอรี่ โดยไม่เกี่ยวกับอัตราการเร่งเครื่องว่ามากหรือน้อย คือ แบตเตอรี่มีขนาดขนาดพอที่เกี่ยวกับอัตราการเร่งเครื่องว่ามากหรือน้อย เครื่องทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟเข้ามอเตอร์
ด้านแนวคิดดังกล่าวทางฝั่งยุโรปได้ออกแบบ EREV เครื่องยนต์มีการที่ Smooth ไม่ต้องใช้งานเครื่องยนต์มากจนเกินไปเปรียบกับจักรยานเสือหมอบใช้เกียร์สูงปั่นเท้าถี่ไปได้เรื่อย ๆ สามารถ
วิ่งได้ในระยะทางไกล ปั่นแล้วไม่เหนื่อยเกินไป
ซึ่งค่ายจีนมีทั้งค่ายทีระบุเรื่องเครื่องยนต์ Atkinson Cycle ซึ่งค่ายรถที่ไม่ระบุเรื่องเครื่องยนต์ Atkinson Cycle จะมีระบบอื่น อาทิ Mirror Cycling ระบบการทำงานเหมือนระบบ Hybrid
มีเป้าประสงค์เดียวกันคือการประหยัดน้ำมัน การเผาไหม้ที่สะอาด ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
การปรับจูนการสื่อตัวควบคุมกระแสไฟแบตเตอรี่กับระบบควบคุม ECU ทำหน้าให้เครื่องยนต์
เริ่มทำงานและเกิดการคุมรอบ มีการปรับเซ็ตจูนรูปแบบใด ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและข้อควรระวัง
คือ เมื่อมีการปรับเซ็ตจูนเรียบร้อยแล้ว จะต้องไม่มีการย้อนกลับไปเป็นแบบ Hybrid กล่าวคือ
มีอุปกรณ์ที่ดี ทุกองค์ประกอบดี แต่การปรับจูนไปได้มาตรฐาน
เมื่อค่ายจีนเริ่มทำการคัดสรรอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามา ส่วนที่ยาก คือ การทำให้อุปกรณ์ที่ดีทุกอย่างสามารถจูนเข้ากันทำงานร่วมกัน เกิดการซิงโครไนซ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ประสิทธิภาพดีสุด Output ดีสุด ประหยัดมากที่สุด สิ่งเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่ค่ายจีนทำงานยังไม่สามารถสู้กับค่ายญี่ปุ่น
จะทำออกมามีประสิทธิดีกว่า
แต่เมื่อมองเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องยนต์ทำหน้าปั่นไฟ ความซับซ้อนในการจูนทำได้น้อยกว่าทั้งเรื่องของการคอนโทรลเครื่องยนต์ทุกอย่างมีความซับซ้อนมาก มองว่า Know-How ทำกระบวนการ Shortcut ควรเน้นที่การทำเป็นคอนโทรลมอเตอร์ คือ เครื่องยนต์ทำงานเพียงปั่นไฟเติมมอเตอร์ เกียร์เคลื่อนด้วยมอเตอร์ ความซับซ้อนน้อยลง ทางค่ายจีนหนทางนี้เป็นทางที่จีนถนัดเรื่องของ
อิเล็กทรอนิกส์เป็นฐานการผลิตมือถือ อาทิ ชิป, มอเตอร์ และแบตเตอรี่ หาได้ในราคาที่ถูก
เมื่อทางด้านเทคโนโลยีด้านอื่น ซึ่งหลายคนคิดว่าประเทศจีนยังเป็นรองประเทศอื่นอยู่
แต่ทางค่ายจีนสู้ด้วยมอเตอร์
จากมอเตอร์เครื่องยนต์สันดาปความรู้จากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ต่อมาเป็นรถที่วิ่งได้สามล้อไซส์เล็กเป็นแบตเตอรี่ตะกั่วกรดเริ่มมีการว่าจ้างให้ผลิตแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค แบตเตอรี่มือถือ ยอมลงทุนนำแพ็คทั้งหมดทำเรียงใส่เข้ามาในรถยนต์ เพื่อทดลองใช้ภายประเทศก่อนส่งออกจำหน่ายทั่วโลก
นี้คือเรื่องราวของความต่างระหว่างค่ายญี่ปุ่นไฮบริด e-Power กับค่ายรถจีน รถไฟฟ้ากึ่งไฮบริด EREV หากท่านสนใจคลิปนี้สามารถรับชมได้ที่คลิปล่างนี้ ถ้าคุณชอบคลิปนี้ขอฝาก กด LIKE
กด SHARE กด SUBSCRIBE ที่ช่องของพวกเราด้วยนะครับ