คุณเวลได้ติดต่อกับคุณเบนซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ Tesla Model 3 Performance เพื่อมาลองเปรียบเทียบ
ช่วงล่างระหว่างรถ Tesla Model Y ของตัวเอง กับ Model 3 Performance โดยทั้ง 2 รุ่น เวลาขับต่างก็ให้ความรู้สึกว่าการขับมีความนิ่ม
แต่มีข้อติดใจที่รถ Tesla Model Y มีอาการโคลง ดังนั้นจึงชวนคุณเบนซ์มาลองนั่งรถ Model Y ด้วยกัน
โดยที่ทางคุณเวลเองมีความตั้งใจที่จะปรับช่วงล่างของรถ
ทางคุณเบนซ์ ได้เล่าประสบการณ์ตอนที่ขับรถ Tesla Model 3 Performance ช่วงแรก ๆ โดยวิ่งในระยะทางที่ไม่ถึง 1,000 กิโลเมตร ตัวรถเองเวลาขับมีอาการโคลงและยวบยาบ เช่นกัน
แต่มีการเปลี่ยนแปลงในตอนที่ทางคุณเบนซ์จะเดินทางขี่มอเตอร์ไซค์ไปจังหวัดบุรีรัมย์ จึงใช้รถ Tesla Model 3 Performance ในการบรรทุกของจำพวก Racing Suit อุปกรณ์สำหรับซ่อมมอเตอร์ไซค์ ซึ่งน้ำหนักที่บรรทุก
โดยรวมโหลดน่าจะมากสูงสุด เพียงแค่กระเป๋า Racing Suit จำนวน 2 ใบ มีน้ำหนัก 10 กว่ากิโลกรัม
จนโช้คด้านหลังของรถกดลงมา และวิ่งไปกลับจากจังหวัดบุรีรัมย์รวมระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร
จากนั้นพอคุณเบนซ์กลับมาขับอีกครั้งกลับให้ความรู้สึกที่ดีกว่า ซึ่งเป็นเพราะสปริงและโช้คของรถมีการนวดจนได้ระดับที่น่าพอใจ
ส่วนรถ Tesla Model Y ของคุณเวล มีข้อที่ติดใจเรื่องของการโคลง การกระพือ เวลาขับผ่านลูกระนาด
ซึ่งคนที่นั่งแถวที่สองจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงอยากให้มาลองนั่งทดสอบกัน
การทดลองนั่งรถ Tesla Model Y
พูดถึงภายในรถ Tesla Model Y นั้น ขนาดความกว้างเมื่อดูจากพื้นที่ของคอนโซลด้านหน้าจะมีขนาดเท่ากับ Tesla Model 3 แต่มีความสูงที่มากกว่า
ที่นี้เมื่อขับข้ามลูกระนาด ทางคุณเบนซ์เห็นว่ารถค่อนข้างดีดมากกว่า Tesla Model 3 Performance จะคล้ายกับความรู้สึกตอนที่คุณเบนซ์ขับ Tesla Model 3 Performance ช่วงแรกที่สปริงยังไม่เกิดการนวด
ซึ่งรถ Model Y มีการวิ่งมาแล้วในระยะทาง 4,000 กิโลเมตร ทางคุณเบนซ์เลยเสนอว่าลองให้บรรทุกของหนักและเดินทางในระยะทางไกล เพื่อนวดสปริงจะให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น
ต้องให้ความเข้าใจก่อนว่าโช้ค ประกอบด้วย
1. สปริง มีหน้าที่รับน้ำหนักของรถทั้งคันและลดการสั่นสะเทือน โดยจะยุบและยืดขึ้นลงตามแรงสะเทือนระหว่างล้อและตัวถัง โดยมีการคำนวนน้ำหนักค่าความแข็ง อ่อน ที่จะทำการรองรับช่วงล่างนั้น ๆ ตามความเหมาะสม
กับการใช้งาน
2. โช้ค มีหน้าที่หยุดการเต้นของสปริง
เนื่องจากว่าสปริงมีจังหวะการยุบและยืดกลับคืน ซึ่งโช้คเดิมไม่สามารถปรับค่าได้ ส่วนสปริงมีการกำหนดค่าตายตัว ซึ่งตัวกระบอกโช้คไม่สามารถปรับค่า Compression (จังหวะการยุบตัวของโช้ค) และค่า Rebound adjuster (ค่าจังหวะการคืนตัวของโช้ค)
ซึ่งถ้าต้องการให้โช้คนุ่มหรือนิ่มมากขึ้น ต้องมีการปรับพรีโหลด [Preload] คือ การปรับระยะยุบตัวของโช้คให้เหมาะกับน้ำหนักบรรทุก ซึ่งจะมีผลต่อความสูงของตัวรถและความตึงของตัวสปริง
ดังนั้น ถ้าต้องการให้รถขับได้นิ่ง ตัวค่า K ของสปริง (ค่าความแข็ง/อ่อนคงที่ของสปริง (SPRING RATE))
ที่ไม่สามารถปรับค่าได้ จะต้องทำการเปลี่ยนสปริงเท่านั้น เพื่อให้มีความอ่อนและนุ่มมากกว่าเดิม และปรับค่า SPRING RATE ให้แข็งมากขึ้น
ส่วนของอาการโคลงจะเกิดตอนที่การขับขี่ใช้ความเร็วสูง ๆ เพราะช่วงเปลี่ยนเลนจะมีแรงเหวี่ยง ทำให้รถเกิดการโคลงได้ง่าย ต้องแก้ไขโดยการเพิ่ม Rebound ของโช้ค ให้คืนตัวหน่วงมากขึ้น เพื่อให้รถโคลงน้อยลง
เพราะฉะนั้นจึงควรมีการเปลี่ยนโช้คของเดิมเป็นโช้คแต่งซึ่งสามารถปรับค่าได้ตามความต้องการ
ยกตัวอย่าง คนที่ชอบขับรถความเร็วสูง มีการเบรครถหนัก ซึ่งโช้คด้านหน้าจะยุบตัวลง ส่วนด้านหลังโช้จจะยืดขึ้น
ถ้าต้องการขับรถเบรกหนัก ๆ และให้มีความนิ่ง จะต้องปรับค่า Compression ของโช้คด้านหน้าให้แข็งมากขึ้น
ส่วนโช้คด้านหลังปรับค่า Rebound ไม่ให้ด้านหลังยกรถ แล้วการขับจะนิ่งมากกว่าเดิม
การเปลี่ยนโช้คของรถ Model Y ที่ KC Racing ศูนย์รวมช่วงล่าง
ทางคุณแม็กซ์ จะเป็นผู้แนะนำ โช้ครุ่นต่าง ๆ สำหรับรถ Tesla Model Y
โช้คสำหรับรถ Tesla Model Y
1. โช้คเดิมที่ของรถ Tesla Model Y
โช้คด้านหน้า
โช้คด้านหลัง
หลักการทำงานกล่าวไว้เบื้องต้นแล้วว่า ตัวรถจะอยู่บนสปริงและโช้คจะช่วยหยุดการเต้นของสปริง
ซึ่งชุดของเดิมจะปรับค่าไม่ได้
2. Tein endurapro plus
โช้จรุ่นนี้สามารถใช้คู่กับสปริงเดิมของรถ Tesla Model Y จุดประสงค์ของลูกค้าที่ซื้อโช้ครุ่นนี้ เพื่อให้การขับขี่
นุ่มขึ้น แก้อาการโคลงและการกระพือ
ซึ่งโช้คแต่งจะมีข้อได้เปรียบที่หัวสามารถปรับค่าได้ โดยถ้าขันมาที่ระดับนิ่มสุด เวลากดโช้คจะง่ายขึ้น
แต่ถ้าขันไปที่ระดับแข็งสุด จะใช้แรงกดที่มากขึ้น
3. Tein flex Z
4. H-drive euro spec
จะเป็นโช้คอัพแบบ Monotube หรือกระบอกเดี่ยว ส่วน Tein flex Z จะเป็นโช้คอัพแบบมาตรฐาน Twintube หรือกระบอกคู่ ซึ่งจะมีความแข็งที่แตกต่างกัน
ซึ่งโช้คที่นำมาเสนอสามารถใช้กับรถ Model Y ได้ทั้งหมด โช้คแต่ละรุ่นจะตอบสนองต่อความต้องการและลักษณะการขับของลูกค้าที่แตกต่างกัน
โจทย์ของคุณเวลมีความต้องการให้ความสูงของรถเท่าเดิม ลดอาการโคลงและอาการกระพือ
ดังนั้นทางคุณแม็กซ์จึงแนะนำ Tein endurapro plus ซึ่งถ้าใช้รุ่นอื่นจะส่งผลให้ความสูงของรถลดลง
โดยรุ่น Tein flex Z ลดลงประมาณ 4 cm. ส่วนรุ่น H-drive euro spec ลดลงประมาณ 2-3 cm
ส่วนของราคารวมค่าเปลี่ยนของ Tein endurapro plus เท่ากับ 26,400 บาท
การเปลี่ยนโช้จเป็น Tein endurapro plus
1. วัดความสูงเดิมของรถ Tesla Model Y อยู่ที่ 71 cm
2. การถอดโช้คเดิมของรถ Tesla Model Y
โช้จด้านหน้า
โช้จด้านหลัง
3. การใส่โช้จ Tein endurapro plus
4. ส่วนที่ปรับระดับของโช้จ
ส่วนที่ใช้สำหรับปรับหัวโช้จด้านหน้าทั้งในส่วนของค่า Compression และค่า Rebound ซึ่งมีค่าระดับทั้งหมด
16 ระดับ โดยตอนนี้ได้ตั้งค่าระดับเบอร์ 10 เป็นค่าที่เน้นให้ในการขับขี่ค่อนข้างนุ่ม
การตั้งค่าระดับของโช้จ จะเรียงตามค่าจากน้อยที่มีความแข็งไปจนระดับค่ามากขึ้น เพื่อให้การขับขี่มีความนุ่มขึ้น
สำหรับการปรับค่าหัวโช้จด้านหลังจะต้องให้ช่างถอดเพื่อมาปรับค่าอีกที
การลองขับรถ Tesla Model Y ที่มีการเปลี่ยนโช้จเรียบร้อยแล้ว
เมื่อลองทดสอบขับบนท้องถนน เช่น ผ่านเนิน ลงคอสะพาน แสดงให้เห้นว่าความรู้สึกแตกต่างจากของเดิม
อย่างชัดเจน โดยโช้จตัวใหม่ช่วยให้สปริงนิ่งขึ้น ส่งผลให้อาการกระพือน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
การรับประกันของ KC Racing
1. มีการรับประกัน 1 ปี
2. ไม่จำกัดระยะทาง
3. ถ้ามีอาการรั่ว ซึม มีเสียง สามารถเปลี่ยนโช้จใหม่ได้ในทันที
4. มีบริการปรับโช้จฟรีตลอด
สำหรับคนที่สนใจ ต้องการมาปรึกษาเรื่องช่วงล่าง หรือมาทดลองขับรถของทาง KC Racing
สามารถติดต่อมาได้ที่
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจรายละเอียดและต้องการให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น สามารถดูได้จากคลิปด้านล่างนี้ และถ้าหากคุณชอบคลิปนี้ขอฝากกด LIKE กด SHARE กด SUBSCRIBE และกดกระดิ่งเป็นกำลังใจที่ช่อง YOUTUBE ของพวกเราด้วยนะครับ
