ต้องบอกว่าเรื่องของกระแสรถยนต์ไฟฟ้าวันนี้ หลายๆคนก็เริ่มตื่นตัวว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เพราะถ้าพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า คนก็จะนึกถึงเจ้าตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างค่าย Tesla
ซึ่งวันนี้แม้ Tesla จะเปิดไปเพียงแค่ 10 ปี แต่ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ
ในช่วงหลังๆเติบโตไป 100% ทุกๆปี จนจะใกล้มาแซงเจ้าตลาดรถ ยนต์ อย่าง Toyota
ซึ่งวันนี้เลยเกิดคำถามที่ว่า ถ้าวันนี้เรารู้อยู่แล้วว่ารถยนต์สันดาป เป็นขาลง
แล้วทำไม Toyota ที่มีทรัพยากรพร้อมอยู่แล้ว ไม่คิดจะทำรถไฟฟ้าของตัวเองบ้าง
ในข่าวก่อนหน้านี้ก็จะเห็นว่า Toyota กังวลในเรื่องของระบบ Supply Chain
เพราะ Toyota เองก็ไปถือหุ้นกับบริษัทรับผลิต OEM ทั้งหลาย
และมองว่าการที่จะถอยตัวเองออกมาไปผลิตไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนจะอยู่ยังไงบ้าง
และก็ยังคอยดัน Hybrid ไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะไปลงทุนในแบตเตอรี่สำหรับรถ Hybrid
และ รถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม
ล่าสุดก็มีการไปโปรโมท รถ Hybrid ที่ฝั่งยุโรป ว่าเป็น Selfcharging
แต่ก็ถูกแบนไป เพราะมันไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า มันเป็นรถ Hybrid ที่ใช้น้ำมัน
ถ้ารถไฟฟ้านิยามมันคือ ชาร์จไฟจากภายนอกเข้าแบตเตอรี่ แล้วนำเอาไฟฟ้าจากแบต ไปขับเคลื่อนมอเตอร์
ซึ่งล่าสุดทาง Toyota ก็ได้ประกาศออกมาว่า เขาจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แบบจริงจังครั้งแรกจากตัว BZ4X Suv Crossover เป็นไฟฟ้าแบบ 100% จุดขายก็คือหลังคาเป็น Solar Roof ขับไปด้วย
ผลิตไฟไปด้วย จะมีขับเคลื่อน 2แบบ
1.ล้อหน้า มอเตอร์ตัวเดียว
2.แบบ 4ล้อ มอเตอร์ 2ตัว
ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่เมืองจีน ที่งานเซี่ยงไฮ้ Motor Show
แต่ที่เมืองไทยงาน Motor Show ของเราในเครือของ Toytota ก็มีเข้ามาเช่นกัน
Lexus ux 300e เป็น Suv Sub complax แต่ราคาสูงถึง 3.5 ล้าน วิ่งได้ 315กม. ต่อ 1การชาร์จ
ในส่วนของ bZ4X ต้องบอกว่ามีการจับมือพัฒนาร่วมกับ ทาง Subaru
เราก็จะเห็นนะครับว่าทาง Subaru ก็ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Solterra
หน้าตาจะคล้ายๆกัน แต่ดีไซน์รายละเอียดอาจจะต่างกันนิดหน่อย
ซึ่งต้องถามว่าตัว bZ4X ไม่ใช่รถไฟฟ่้าคันแรกของ Toyota นะครับ
ก่อนหน้านี้ทาง Toyota ก็ได้ทำ rav4 Ev แต่ทำตลาดได้ในช่วงสั้นๆแต่ผลตอบรับไม่ได้ดีนัก
จึงพักทำตลาดไป
ทีนี้มาดูเรื่องของสเปคเจ้าตัว bZ4X กัน
สำหรับรุ่นที่เป็นขับหน้าเป็นมอเตอร์ขนาด 150 kW หรือตีเป็นแรงม้า 201 แรงม้า
อัตราเร่งสูงสด 0-100 อยู่ที่ 8วินาที
สำหรับเจ้าตัว The all Wheel drive รถไฟฟ้าขนาด 80 kW สองตัว หน้ากับหลัง
กำลังสูงสุด 160kw หรือ 214แรงม้า แรงบิดสูงสุด 336 Nm
0-100 ใช้เวลา 7.7 วินาที Top speed 160km/hr
ต่อ 1การชาร์จวิ่งได้ 450 km
ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีการชาร์จ 0-80% ใช้เวลา 30นาที
Fast Chrage สูงสุด 150 kW
ส่วน AC Charge ยังอยู่ที่6.6 kW ซึ่งก็ยังช้าอยู่
เพราะวันนี้หลายๆเจ้าก็เข้ามาเล่นตรงนี้แล้วนะครับ
ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนไม่ตัดสินใจซื้อก็จะเป็นเรื่องข้อจำกัด ระยะทาง เวลาชาร์จ
ฉะนั้นเรื่องของการชาร์จถ้าปีหน้ายังเป็น AC Charge อยู่แค่5-11 kW ค่ายอื่นไปไกลกว่าแน่นอนครับแบบนี้
ทีนี้มาดูเรื่องของ Infortainmaint ของรถยนต์ไฟฟ้ากันบ้างนะครับ
พัฒนามาจากระบบ Safety Sense เป็น Genarationที่ 3 อย่าง Radar กล้องด้านข้าง ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน และ มีการอัพเดต Infortainmaint ผ่าน OTA
ซึ่งตลาดที่แรกที่จะไปเปิดตัว ก็คือที่ยุโรปนั่นเอง จะเปิดให้จอง bZ4X วันที่ 2 ธันวาคม
เป็นพรีออเดอร์ โดยคาดว่าจะผลิต กลางปี 2022 หรือ ซึ่งพอ Toyota โดดเข้ามาเล่นในตลาด suv
sub Complax คู่แข่งที่ต้องเจอแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นค่ายจากเกาหลี Hyundai IONIO และยังมาเจอ
Tesla Model Y อีก
ราคาที่คาดว่าจะเปิดตัวbZ4X คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท
โดนภาษีนำเข้าหลายๆอย่างราคาน่าจะมาถึงไทยอยู่ที่ 2.8ล้าน
ก็ต้องมารอดูกันนะครับว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไง
เพื่อนๆคิดเห็นยังไงก็มาคอมเมนต์พูดคุยกันได้เลยนะครับ